สวัสดีค่ะท่านผู้ฟัง ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการ"มองสังคมจีน"ค่ะ  ทะเลสาบซีหูของเมืองหางโจวเป็นทะเลสาบที่มีทิวทัศน์สวยงามขึ้นชื่อลือชาในประเทศจีน หากท่านไปเที่ยวเมืองหางโจว เมื่อล่องเรือ ชมวิวสองฟากฝั่ง พร้อมฟังผู้แจวเรือร้องเพลงงิ้วท้องถิ่นน้ำเสียงไพเราะ จะมีความสุขขนาดไหน รายการวันนี้ ดิฉันขอนำเรื่องของนางหยางสิ้วผิง หญิงแจวเรือในทะเลสาบซีหูมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

ในอดีต ผู้หญิงที่มีอาชีพแจวเรือในทะเลสาบซีหูส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความยากจน หลังจากเศรษฐกิจจีนพัฒนาขึ้นและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนปรับปรุงดีขึ้น หญิงแจวเรือในทะเลสาบซีหูจึงหายไปเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว แต่ทว่า ปีหลังๆนี้ การท่องเที่ยวของเมืองหางโจวได้ประกาศรับสมัครสตรีแจวเรือ 20 คน เพื่อเพิ่มสีสันการท่องเที่ยวของทะเลสาบซีหูให้นักท่องเที่ยวมีความเพลิดเพลินขณะล่องเรือ นางหยางสิ้วผิงได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งใน 20 เธอทบทวนการสอบสัมภาษณ์ว่า

"ดิฉันไม่เคยทำอาชีพแจวเรือ เห็นเขาแจวเรือไปเรื่อยๆ คิดว่า คงไม่เหนื่อย ขณะที่สอบสัมภาษณ์ มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งถามดิฉันว่า อาชีพแจวเรือค่อนข้างลำบาก คุณทนได้ไหม ดิฉันตอบทันทีว่า ไม่มีปัญหา แต่ถึงเวลาสอบแจวเรือ จึงรู้สึกว่า เหนื่อยมาก แทบจะทนไม่ไหว "

ผู้ทำอาชีพแจวเรือต้องว่ายน้ำเป็นและพายเรือเป็น แม้ว่า หยางสิ้วผิงรู้สึกว่าตัวเองสุขภาพแข็งแรง เพราะเคยเป็นนักพายเรือมังกรที่บ้านเกิดเมื่อสมัยเป็นสาว แต่ในช่วงฝึกอบรมที่ใช้เวลาสองเดือน สตรี 20 คนที่สอบผ่าน ต่างรู้สึกยากลำบากจริงๆ

"ในช่วงหน้าร้อน อากาศร้อนจัด ขนาดยังไม่ได้ทำอะไร ก็รู้สึกร้อนมากแล้ว แต่เราต้องไปแจวเรือใต้แสงแดดร้อนแรง มักจะเหงื่อออกทั้งวัน ในช่วงหน้าหนาว เวลาลมแรง เราจะเหนื่อยมาก หากมีเหงื่อ ก็จะเป็นหวัดง่าย"

ก่อนมาทำอาชีพแจวเรือ หยางสิ้วผิงเคยเป็นครูที่โรงเรียนอนุบาลเมืองหางโจวเป็นเวลา 9 ปี เมื่อปี 2002 เธอลาออกจากงาน เพื่อไปช่วยสามีประกอบกิจการการค้าต่างประเทศ มีรายได้กว่า 2 แสนหยวนต่อปี ได้ซื้อบ้านซื้อรถในเมืองหางโจว มีชีวิตแสนสบาย ใครๆก็ไม่เข้าใจเธอ ชีวิตเป็นภรรยาที่ไม่ต้องทำอะไรยังไม่พอใจหรือ ทำไมต้องมาทำอาชีพแจวเรือที่แสนลำบาก หยางสิ้วผิงเล่าให้ฟังว่า

"อยู่บ้านคนเดียว ทั้งเหงาทั้งไม่สนุก รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่าอะไร อายุยังไม่มาก ไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้ ดังนั้น เมื่อได้ข่าวว่า การท่องเที่ยวรับสมัครสตรีแจวเรือ ก็รีบมาสมัคร"

หยางสิ้วผิงยังเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ทำอาชีพแจวเรือ ทำงานกลางแดดเกือบทุกวัน ทำให้หน้าดำ และผิวพรรณไม่ชุ่มชื้น แต่รู้สึกว่าชีวิตมีความสุขและได้เปิดหูเปิดตาสนุกสนานทีเดียว

"หลังจากทำอาชีพแจวเรือแล้ว รู้สึกว่า ตัวเองมีคุณค่า ชีวิตมีความหมาย รายได้กับสวัสดิการก็ไม่เลว ความรู้สึกแตกต่างกับการอยู่บ้านเฉยๆ"