เธอยกตัวอย่างว่า "มาสคอตของงานกีฬาโอลิมปิกปักกิ่งเป็นฝูหวาห้าตัว ในจำนวนนี้ ฝูหวาฮวนฮวนสีแดงที่มีมงกุฎเป็นรูปเปลวไฟนั้นก็มีศิลปะตุนหวง แฝงไว้" เธอแนะนำว่า "ศิลปะตุนหวงเป็นพื้นฐานและเป็นทรัพยากรของการประดิษฐ์คิดสร้าง นาย หานเหม่ยหลิน ผู้ประดิษฐ์คิดสร้างมาสคอตฝูหวาก็ได้ยืมปัจจัยบางสิ่งบางอย่างจากศิลปะตุนหวง ภาพผนังในถ้ำตุนหวงเกี่ยวกับการแสดงธรรมสมัยราชวงศ์เป่ยฉาวและราชวงศ์สุย มักจะมีสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่คล้าย ๆ เปลวไฟ ซึ่งก็เป็นแหล่งที่มาของเปลวไฟที่อยู่เหนือศีรษะของ

ฮวนฮวน ดังนั้น ฝูหวาฮวนฮวนถือเป็นการคิดสร้างใหม่ เปลวไฟที่อยู่เหนือศีรษะของฮวนฮวนคล้าย ๆ หมวก ดูแล้วสวยงามและเหมาะสมถูกต้องดี"

การศึกษาวิจัยวิชาตุนหวงวิทยาได้ผ่านกระบวนการที่ยากลำบากและสลับซับซ้อนยิ่ง สาเหตุสำคัญคือ ตอนปลายสมัยราชวงศ์ชิง พลังประเทศของจีนอ่อนแอ โบราณวัตถุอันล้ำค่าของตุนหวงถูกขโมยไปและถูกทำลายเสียหายไปเป็นจำนวนมหาศาล มาดาม ฝานจิ่นซือ เน้นว่า การที่จีนใหม่สถาปนาขึ้น เป็นจุดเปลี่ยนทิศทางของการวิจัยวิชาตุนหวงวิทยา พร้อม ๆ กับพลังประเทศของจีนนับวันแต่จะเข้มแข็งขึ้น วิชาตุนหวงวิทยานับวันแต่จะเฟื่องฟูขึ้นด้วย

ก่อนจบการสัมภาษณ์ มาดาม ฝานจิ่นซือ ฝากความหวังว่า "งานกีฬาโอลิมปิกที่จัดขึ้นในจีนเป็นครั้งแรกนี้จะประสบความสำเร็จ ทีมจีนจะได้รับผลงานที่ดีเยี่ยม จีนในทุกวันนี้ไม่เหมือนกับตอนที่ดิฉันยังเป็นเด็กที่คนต่างชาติมักจะเรียกเราว่า ตุงย่าปิ่งฟูคือ คนขี้โรคแห่งเอเซียตะวันออก ดิฉันคิดว่า จีนในทุกวันนี้มีความเชื่อมั่นว่า ประเทศเราไม่เพียงแต่มีผลงานด้านกีฬาเท่านั้น หากยังจะเข้มแข็งและมั่งคั่งขึ้นด้วย นี่ก็เป็นผลกระทบอย่างหนึ่งของเจตนารมณ์โอลิมปิกที่มีต่อจีน"