"สนามแข่งขันมีหลายแห่ง หากลูกค้าบอกว่า ไปสนามแข่งแฮนด์บอล หรือยิงธนู เราต้องรู้ว่า สนามกีฬาอยู่ที่ไหน เส้นทางที่ใกล้ที่สุดไปยังไง"

เรื่องราวที่ประทับใจของคนขับแท็กซี่ยังมีอีกมากมาย คุณจางเจิง มีประสบการณ์ขับรถแท็กซี่ 17 ปีแล้ว เขาบอกว่า การอบรมได้ความรู้ใหม่มากมาย

"การอบรมประเพณีมารยาททำให้เราได้เรียนรู้ข้อห้ามประเทศต่างๆ เช่น ชาวอียิปต์และชาวอินเดียไม่ต้องการให้เราใช้มือบังเพื่อป้องกันศีรษะชนกับรถ ชาวเกาหลีใต้ไม่ชอบเลข 4 และ 9 ชาวญี่ปุ่นไม่ชอบเลข 4 ชาวญี่ปุ่นชอบโค้งคำนับไม่ชอบจับมือกัน แต่ชาวสหรัฐอเมริกาชอบจับมือกัน"

เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งเริ่มใช้มาตรการห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณและรถแท็กซี แม้ว่า พี่จางเจิงก็ชอบสูบบุหรี่ แต่ว่า เขาก็สนับสนุนมาตรการนี้ เขาบอกว่า ลูกค้าส่วนใหญ่จะให้ความร่วมมือ

"มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลูกค้าขึ้นรถแล้วก็เอาบุหรี่ม้วนหนึ่งคาบไว้ในปาก และถามว่า พี่ครับสูบบุหรี่ในรถได้ไหม ผมบอกว่า สูบไม่ได้ ถ้าอยากสูบจริงจริง เราสองคนลงจากรถสูบด้วยกัน ลูกค้าฟังแล้วเห็นด้วยและเก็บบุหรี่ไว้กล่าวด้วยความเกรงใจว่า เห็นรถพี่สะอาดสะอ้านเช่นนี้ ไม่กล้าสูบเลย"

พี่จางเจิงเล่าว่า หน่วยงานรัฐบาลยังได้แจกจ่ายคู่มือคนขับแท็กซีช่วงงานโอลิมปิก

"คู่มือนี้มีสองภาษา หากเราพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น ก็ชี้ประโยคในคู่มือให้ชาวต่างชาติดู เขาจะเข้าใจทันที เมื่อวานนี้ ลูกค้าสามคนเป็นชาวเบลเยี่ยม อยากไปหวังฝูจิ่งซึ่งเป็นถนนที่ห้ามรถใดๆวิ่งผ่าน ผมพูดอังกฤษไม่เก่ง จึงชี้คำอธิบายภาษาอังกฤษในคู่มือนี้ให้สามคนอ่านดู ทั้งสามคนเข้าใจทันที และชื่นชมว่า ประชาชนจีนได้เตรียมพร้อมจริงๆเพื่องานโอลิมปิก