798 มารู้จักกันในฐานะของศูนย์ศิลปะนานาชาติอย่างแท้จริง เมื่อมีการเปิดการแสดงศิลปะ "Beijing Afloat" ขึ้น โดยการสนับสนุนและความคิดริเริ่มในการใช้อาคารหลังคาทรงใบเลื่อยนี้เป็นแกลเลอรี่แสดงงานของ หวง รุ่ย ซึ่งเป็นผู้จัดการของ Beijing Tokyo Art Projects and 798 space ในปี 2002 แล้วโรงงานที่เคยเงียบเชียบก็เริ่มคึกคักไปด้วยผู้คนที่ชื่นชอบศิลปะสมัยใหม่

ในปี 2003 หนังสือพิมพ์นิวส์วีค ของอเมริกาได้กล่าวว่า "ปักกิ่งเป็น 1 ใน 12 เมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเองของโลก โดยเฉพาะชุมชนศิลปะ 798 มีส่วนสำคัญยิ่งที่ฉายให้เห็นถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของปักกิ่ง จากโรงงานเก่าแก่ที่กลับกลายเป็นที่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ปัจจุบัน ชุมชนศิลปะ 798 คือตัวอย่างของเมืองที่มีความหลากหลาย และการผสานกับวัฒนธรรมสมัยใหม่อย่างมีสุนทรียภาพ"

และเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ในการจัดลำดับประเทศที่มีการซื้อขายศิลปะมากที่สุดในโลก จีนขยับขึ้นมาเป็นลำดับที่ 3 รองจากฝรั่งเศสและอิตาลี

ประติมากรรมชิ้นนี้ตั้งอยู่ในเขต 798 เก่า

ครั้งหนึ่งสถานที่แห่งนี้เคยเป็นแหล่งผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของประเทศ ทำเงินมากมาย เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ และปัจจุบันมันได้กลับมาทำหน้าที่นั้นอีกครั้งแต่ในฐานะที่นุ่มนวลสวยงาม อาจมีประกายไฟวูบวาบจาการเชื่อมเหล็ก แต่ก็เป็นการเชื่อมให้เกิดรูปทรงที่วิจิตรของศิลปิน อาจจะมีสายงานการผลิตขึ้นอีกครั้ง แต่ก็เป็นการผลิตชิ้นงานออกมาเพียงชิ้นเดียว ไฟทุกดวงในโรงงานแห่งนี้กลับมาสว่างไสวอีกครั้ง เพื่อสาดส่องไปยังภาพวาดที่จัดแสดงในแกลเลอรี่จำนวนมากมายในชุมชนศิลปะแห่งนี้

สัปดาห์หน้าผมจะพาท่านผู้ฟังไปเดินดูซอกมุมต่างๆ ของชุมชนศิลปะแห่งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงบรรยากาศการเปิดงานของ Feng Zhengjie และสัมภาษณ์สดมิสเตอร์โจเซฟในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงศิลปะของเอเชียมานาน มอง 798 วันนี้ และอนาคตต่อไปอย่างไร

และ 798 เอง จะเปลี่ยนตัวเองไปเช่นไร เมื่อจำนวนคนที่มามากขึ้นทุกที เหตุผลที่เลือกที่นี่ในวันแรกมาถึงนั้นจะเปลี่ยนแปลไปเช่นไรบ้าง

พบกันสัปดาห์หน้าครับ