China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2009-03-27 18:21:23    
มาดูหมีกันดีไหม
รายการสถานีต่อไป

cri

    

               ซุ้มประตูทางเข้า                         ห้ามปีน

สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่เคารพ พบกับรายการสถานีต่อไป ทางสถานีวิทยุซีอาร์ไอ ประเทศจีน เช่นเคยนะครับ

สัปดาห์นี้ผมจะพาท่านไปดูหมีแพนด้ายักษ์และเพื่อนของเขาในสวนสัตว์ปักกิ่ง

การเดินทางไปยังสวนสัตว์ปักกิ่งให้ใช้เส้นทางรถไฟใต้ดินสายที่ 2 และลงที่สถานีซี่จื๊อเหมิน ทางช่องทางออก A ซึ่งเมื่อโผล่จากช่องทางออกมา ท่านก็จะยืนอยู่บนลานโล่ง ที่ด้านหลังเป็นสถานีรถไฟสายเหนือ หรือ "เป่ยจิง เป่ยจ้าน" ซึ่งเป็นอาคารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย มองแล้วดูคล้ายไข่ 3 ฟองตั้งเรียงกันอยู่ ซึ่งเป็นที่ที่ผมเคยแนะนำการเดินทางไปยังปาต๋าลิ่ง เพื่อชื่นชมกำแพงเมืองจีนนั่นเอง จากนั้นให้เดินเลาะไปทางทิศตะวันตก ผ่านหน้าห้องสรรพสินค้าที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่นาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตัวอาคารสถานีรถไฟไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงสวนสัตว์ โดยระหว่างทางนั้นจะผ่านโรงละครชื่อมอสโคว์ ซึ่งมีอาคารที่ก่อสร้างแบบรัสเซียอย่างวิจิตรตระการตา ให้ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วย

สวนสัตว์ปักกิ่งนั้น เพิ่งเปิดมาไม่นาน พร้อมๆ กับการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง ซึ่งแต่ก่อนเป็นสวนสาธารณะชื่อ "ซี่เจี่ยว กงหยวน" แต่ว่ากันว่าก่อนหน้านั้นในราวคริสตวรรษที่ 18 ที่นี่เป็นสวนหน้าคฤหาสน์ของข้าราชบริภารผู้หนึ่งในสมัยรางวงศ์ชิงชื่อ "ฝู่ คัง" โดยเรียกที่นี่ว่า "ซานเปยสื่อ" และมีข้อมูลอีกแหล่งบอกว่าในช่วงต้นราชวงศ์หมิง ที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อนเป็นวังขององค์ชายคัง ชื่อว่า "สวนแห่งความสุขและมิตรไมตรี"

    

                     นกยูง                        ความซุกซนอันน่ารัก

ในปี 1906 ซึ่งเป็นช่วงที่จักรพรรดิกวงสีปกครองประเทศ สวนแห่งนี้ได้กลายเป็นฟาร์มตัวอย่างด้านเกษตรกรรมและการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งรู้จักกันในชื่อว่า "สวนสัตว์หมื่นตัว" และเปิดให้สาธารณชนเข้าชมในปี 1908 ซึ่งปีที่ผ่านมาสวนสัตว์ปักกิ่งเพิ่งฉลองครบรอบ 100 ปีไปหมาดๆ และในช่วงสงครามภายในประเทศและการเข้ายึดครองของญี่ปุ่น ได้มีเรื่องโศกสลดเกิดขึ้น เพราะช้างที่มีเพียงเชือกเดียวในสวนแห่งนี้ได้ล้มลง และยังมีข้ออ้างของญี่ปุ่นเพื่อหนีภัยจากการโจมตีทางอากาศ โดยได้วางยาสิงโต เสือ และเสือดาว ที่เป็นสัตว์ใหญ่หลักๆ ของสวนสัตว์ จนถึงปี 1949 สวนสัตว์แห่งนี้เหลือเพียงลิง 12 ตัว นกแก้ว 2 ตัว และตัวอีมูตาบอดอีก 1 ตัว หลังผ่านพ้นภัยสงครามและสาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้นแล้ว สวนสัตว์แห่งนี้จึงได้เปิดขึ้นอีกครั้ง โดยเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 เมษายน ปี 1955 ในชื่อว่า "สวนสัตว์ปักกิ่ง"

1 2 3 4 5