การดื่มต้อนรับ

โดยเมื่อปีที่แล้วเขตอู่ชิงมีรายได้จากการลงทุนของอุตสาหกรรมกว่า 50,000 ล้านหยวน และโดยมากจากบริษัทของต่างชาติ สาเหตุที่ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศการลงทุนที่ดี เพราะว่านอกจากสถานที่ตั้งและสาธารณูปโภคครบครันดังที่ผมได้กล่าวไปตอนต้นรายการแล้ว หน่วยงานบริหารของเขตอู่ชิง ยังได้ให้บริการแบบรวมศูนย์ คือ ดึงเอาหน่วยงานสำคัญต่างๆ มาไว้ในอาคารเดียวกัน เมื่อผู้ลงทุนต้องการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานใด ก็สามารถทำได้เสร็จในที่เดียวกันเลย ไม่ต้องวิ่งรอกไปมาหลายที่ นอกจากนี้สิ่งที่เป็นแรงดึงดูดสำคัญอีกอย่างคือ ระบบภาษีพิเศษที่มอบให้แก่นักลงทุนชาวต่างชาติโดยเฉพาะ

นายโยชิยาสุ ทาบุซา ผู้จัดการใหญ่และประธานกรรมการของบริษัท ซันโย ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอะไหล่รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นได้เล่าถึงเหตุผลที่ตัดสินใจมาลงทุนสร้างโรงงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมอู่ชิงว่า " เพราะที่นี่ใกล้ท่าเรือ สินค้าของเราส่วนใหญ่จะส่งกลับไปยังญี่ปุ่นและส่วนหนึ่งส่งไปอเมริกา ด้วยความที่อู่ชิงใกล้ท่าเรือนานาชาติถังกูที่เทียนจิน จึงนับว่าสะดวกมาก ทั้งพื้นดินที่นี่มีความแข็งแรงพอที่จะสามารถรับแรงกระแทกของเครื่องจักรได้ และยังมีบริษัทญี่ปุ่นด้วยกันเปิดอยู่ในเขตนี้ ทำให้ง่ายต่อการส่งป้อนวัตถุดิบมาให้ที่โรงงาน"

บึงน้ำหน้าโรงแรมสวอน เลก

บริษัทซันโย เปิดที่ญี่ปุ่น 3 แห่ง และที่อู่ชิงนี้อีก 1 แห่ง โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2001 มาแล้วเสร็จในปี 2006 มียอดการลงทุนในขั้นต้น 100 ล้านเยน เริ่มต้นนั้นมีพนักงานเพียง 30 คน แล้วพัฒนาจนมีคนงานถึง 260 คน แต่ด้วยมรสุมเศรษฐกิจที่ถาโถมในปัจจุบันทางบริษัทได้ลดพนักงานไป จนเหลือแค่ 190 คนในปัจจุบัน

สิ่งที่ประทับใจ คือการบริการของสำนักงานเขตอู่ชิง ที่ช่วยประสานงานกับหน่วยงานศุลกากรเกี่ยวกับเรื่องระบบบัญชีที่ไม่ตรงกันจนประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังมีระบบภาษีพิเศษแก่บริษัทต่างชาติด้วย"