ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกตกอยู่ในภาวะซบเซา แต่เศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ยังเติบโตขึ้น 7.1% นับเป็นที่อันน่าพึงพอใจ ซึ่งทำให้จีนเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน มีนักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยลงความเห็นว่า จีนสามารถช่วยให้ประเทศอื่นๆพ้นออกจากวิกฤติทางเศรษฐกิจได้
อันที่จริง ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา จีนได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ในการพัฒนาเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง จีนพลิกจากประเทศยากจนเมื่อปี 1949 มาเป็นประเทศที่มียอดมูลค่าทางเศรษฐกิจอันดับที่ 3 ของโลกในปัจจุบัน จากไม่มีความสามารถผลิตรถยนต์ได้เองจนสามารถส่งยานอวกาศได้ จากประเทศเกษตรกรรมที่ล้าหลังกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมอันเข้มแข็งของโลก จากประเทศที่ถูกปิดล้อมกลายมาเป็นประเทศที่แบกรับภารกิจสำคัญและมีอิทธิพลมากยิ่งขึ้นของโลก
การที่จีนประสบความสำเร็จ ก็เพราะพบหนทางการพัฒนาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพที่เป็นจริงของตน แต่ในกระบวนการการพัฒนา 60 ปีที่ผ่านมานี้ ความสำเร็จอันใหญ่หลวงไม่เพียงแต่เฉพาะหนทางการพัฒนาของจีนเท่านั้น หากยังต้องอาศัยเจตนารมณ์ของประชาชนจีน ซึ่งมีความมุมานะบากบั่นอย่างไม่ระย่อท้อถอย นี่เป็นแก่นสารของแรงขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศชาติที่สำคัญ
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ปี 1949 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้นนั้น เศรษฐกิจจีนถูกทำลายอย่างร้ายแรง เนื่องจากสงครามยืดเยื้อเป็นเวลาหลายปี ช่วงนั้นจีนจึงเป็นประเทศยากจนที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง ก่อนปี 1937 ยอดการผลิตธัญญาหารของจีนเคยมี 140000 ล้านกิโลกรัม แต่ในปี 1949 มีแค่ 112000 ล้านกิโลกรัมเท่านั้น พื้นฐานอุตสาหกรรมก็อ่อนแอมาก ประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตงเคยกล่าวว่า ขณะนี้เราสามารถผลิตอะไรได้บ้าง โต๊ะ เก้าอี้ ถ้วย ชาม ธัญญาหาร และกระดาษ แต่รถยนต์ เครื่องบิน และรถถัง กระทั่งมอเตอร์ไซค์ เราไม่สามารถผลิตได้แม้แต่สักคันเดียว
ปัญหาที่ทำให้รัฐบาลชุดใหม่ของจีนในช่วงนั้นลำบากใจอย่างยิ่งคือ การปิดล้อมของประเทศตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ ไม่ยอมรับสาธารณรัฐประชาชนจีน และขัดขวางไม่ให้จีนเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศต่างๆรวมถึงสหประชาชาติ ส่งกองเรือรบมาประจำช่องแคบไต้หวัน ขัดขวางไม่ให้จีนรวมเป็นเอกภาพ ก่อสงครามเกาหลีเหนือขึ้น โดยเจาะจงต่อประเทศจีน และยังชวนประเทศอุตสาหกรรมที่สำคัญในยุโรปร่วมกันจำกัดการขนส่งสู่จีนอย่างทุกด้าน การกระทำเหล่านี้ล้วนเพื่อทำลายอำนาจรัฐของสาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งแต่ต้น
แต่ประชาชนจีนไม่หวาดกลัวความลำบากใดๆ จากการปิดล้อมจากต่างประเทศครั้งนี้ ประชาชนจีนไม่ยอมแพ้ มีการต่อต้านทั้งในด้านการเมืองและการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยลำแข้งของตนเป็นเวลา 3 ปี เศรษฐกิจจีนก็ฟื้นตัวในเบื้องต้น และตั้งแต่ปี 1953 เป็นต้นมา จีนเริ่มดำเนินแผนพัฒนา 5 ปีฉบับแรก ซึ่งเป็นการเริ่มต้นที่ทำให้จีนพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบัน จีนกำลังดำเนินแผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 11
1 2
|