สิ่งที่ต้องยอมรับคือ ในช่วงที่สาธารณรัฐประชาชนเพิ่งสถาปนาขึ้นนั้น การก่อสร้างต่างๆได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียตอย่างมาก แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหภาพโซเวียตเลวร้ายลง ในราวต้นทศวรรษที่ 1960 สหภาพโซเวียตได้ยกเลิกความช่วยเหลือต่อจีนทั้งหมด โครงการก่อสร้างจำนวนมากจึงต้องหยุดชะงักลง ซึ่งทำให้เศรษฐกิจจีนประสบความเสียหายอย่างหนัก ต่อจากนั้น จีนกับสหภาพโซเวียตยังเกิดการปะทะกันในเขตชายแดนด้วย ทำให้จีนต้องเผชิญกับสถานภาพที่เลวร้ายยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน การปฏิวัติทางวัฒนธรรมภายในประเทศจีนยังส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจให้เสียหายอย่างหนัก ภายใต้สถานการณ์ลำบากเช่นนี้ จีนยังสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์หลายประการ
ปี 1964 จีนสร้างระเบิดปรมาณูลูกแรกได้เป็นผลสำเร็จ
ปี 1967 จีนวิจัยและผลิตระเบิดไฮโดรเจนได้สำเร็จ
ปี 1970 จีนส่งดาวเทียมดวงแรกขึ้นสู่อวกาศเป็นผลสำเร็จ
จีนประสบความสำเร็จเหล่านี้โดยอาศัยกำลังและศักยภาพของตนเองเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ของจีนได้แผ้วถางแนวทางเทคโนโลยีใหญ่ๆจำนวนมหาศาล ทำให้เทคโนโลยีด้านป้องกันประเทศและการบินอวกาศเข้าสู่ระดับแนวหน้าของโลก
พร้อมๆกับประเทศจีนมีศักยภาพเข้มแข็งยิ่งขึ้น การปิดล้อมจากประเทศตะวันตกก็ค่อยๆถูกทำลายไป เมื่อปี 1971 จีนได้ฟื้นฟูสถานะประเทศสมาชิกประจำสหประชาชาติ ปี 1972 จีนกับญี่ปุ่นสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ ปีเดียวกัน ประธานาธิบดีสหรัฐฯเยือนจีน ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯเริ่มฟื้นฟูสู่ภาวะปกติ
ปี 1978 จีนดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศ ซึ่งเป็นหนทางการพัฒนาที่สอดคล้องกับสภาพที่เป็นจริงของจีน จนถึงปัจจุบัน ด้วยการพัฒนาเป็นเวลา 60 ปี ยอดมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในปี 1950 มีเพียง 68300 ล้านหยวนเพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านล้านหยวนในปี 2008 รายได้เฉลี่ยต่อคนเพิ่มจาก 77 หยวนเมื่อปี 1950 เป็น 15100 หยวนในปี 2008 และเมื่อช่วงที่เพิ่งสถาปนาจีนใหม่นั้น เยาวชนที่ไม่รู้หนังสือมีถึง 80% แต่ปัจจุบัน ลดลงเหลือเพียง 4% เท่านั้น ส่วนผู้ที่เรียนระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้น 160 เท่า
เนื่องจากเจตนารมณ์แห่งความมุมานะบากบั่นและการใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ ประชาชนจีนจึงสามารถพบหนทางการพัฒนาที่เหมาะกับประเทศตน และได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์มากมายที่ดึงดูดทุกสายตาทั่วโลกให้หันมามองจีน 1 2
|