ศาสตราจารย์ประพิณ มโนมัยวิบูลย์
ครั้งแรกมาเมืองจีนหลังจากเรียนภาษาจีนมานาน
ตอนหลังสันติบาลก็ไม่มายุ่ง พอสถานทูตจีนมาเปิดตรงรัชดา ก็ไปขอความช่วยเหลือ เขาก็ช่วย ขอทุนให้นิสิตปีละ 2 ทุนอะไรแบบนี้ ก็ยังมาทุกปีปีละ 2 คน นิสิตอักษรศาสตร์ และก็ค่อยๆ ให้ความช่วยเหลือ สถานทูตก็ให้ความช่วยเหลือ ให้หนังสือ ให้อะไร ตอนหลังก็ขออาจารย์จีนมาช่วยสอนด้วย ที่โชคดีอย่างหนึ่งคือ ปี 1983 ท่านอธิการบดีจางหรงเสียงของเป่ยต้าไปที่เมืองไทย ก็ช่วยเป็นล่ามแปลให้ พอท่านกลับมาแล้วก็ได้ทุนแลกเปลี่ยนมาที่เป่นต้า 6 เดือน เป็นครั้งแรกที่มาประเทศจีนหลังจากเรียนภาษาจีนมานาน เรียนตั้งแต่ปี 1967 แต่มาประเทศจีน 1983 ครั้งแรก มาอยู่ที่เป่ยต้า 6 เดือน มาวิจัยภาษาจีนปัจจุบัน และก็เข้าห้องเรียนของอาจารย์ภาษาจีน ไปนั่งฟัง ดีมาก เป็นหนแรกมาเมืองจีน ตื่นเต้นมาก ตอนนั้นเมืองจีนไม่เหมือนสมัยนี้เลย ทุกคนจะใส่เสื้อ"เหมา" และก็ใส่เสื้อน้ำเงินธรรดา และต้องใช้เงิน"ไว่ฮุ่ยจ้วน"เงินสำหรับคนต่างชาติ เขาให้พักในหอพักของอาจารย์ ซึ่งก็ดีมาก ที่"เสาหยวน" เราก็ทานข้าวในมหาวิทยาลัย ถ้าไปทานข้าวข้างนอกต้องไปขอ"เหลียงเพี่ยว"จากเพื่อนคนจีน ไม่งั้นซื้อขนมซื้อสลาเปาไม่ได้เลย และซื้อของต้องใช้เงินนอก ต้องไปร้านมิตรภาพ และอีกอย่างเขาบอกให้เราแต่งตัวแบบจีนๆ เราก็พยายามแต่งตัวแบบจีนๆ เอาเสื้อผ้าเรียบๆ มา จนวันหนึ่ง ไปโรงแรมมิตรภาพ จะเข้าไปกินข้าว ยามไม่ให้เข้า ยามบอกเป็นคนจีนไม่ให้เข้า เพราะเราแต่งตัวเป็นจีนมากเลย เรียบ สีน้ำเงิน หน้าก็เป็นจีน แถมพูดจีนได้อีก ต้องควักบัตรของเป่ยต้าให้ดูว่าฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญต่างชาตินะ ไม่ใช่คนจีน เขาก็มองใหญ่ ในที่สุดเขาก็ให้เข้าไป สมัยนั้นถ้าอยากกินอาหารฝรั่ง หรืออะไรบางอย่างต้องไปโรงแรมมิตรภาพ กับโรงแรมปักกิ่งตรงเทียนอันเหมิน ข้างนอกไม่มี โยเกิร์ตก็ไม่มี มาโรงแรมมิตรภาพเพื่อซื้อ"ซวนไหน่" ซึ่งอร่อยมาก เป็นโถกระเบื้อง ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ใส่โถกระเบื้อง สวยน่ารัก และอร่อย สมัยนั้นกินข้างต้องเป็นเวลา หิวก่อนเวลาร้านก็ไม่เปิด โรงแรมก็ไม่เปิด ในมหาวิทยาลัยก็เหมือนกัน มีเวลากินข้าว 40 หรือ50 นาทีเท่านั้น แต่ว่าได้ภาษา ได้มาสัมผัสภาษาจีนจริงๆ ได้เห็นเมืองจีนจริงๆ นั่นก็เป็นครั้งแรก และก็หนนั้นก็โชคดี เผอิญศาสตรจารย์หลี่ฟางกุ้ยท่านก็มาที่เป่ยต้า ก็พบกันที่"เสาหยวน "ท่านก็แนะนำให้รู้จักอาจารย์"จงเหวินซี่ "ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่านมาก่อน อย่างอาจารย์จูเต๋อซี หวางหวน หลินเทา เป็นลูกศิษย์ท่านหมด ท่านก็แนะนำให้รู้จัก และก็รู้จักอาจารย์ลู่เจี้ยนหลิน ท่านก็ฝากฝังว่า ประพิณเขาอยู่เมืองไทยคนเดียวนะ พวกเธอต้องช่วยเขา เขา้เป็นลูกศิษย์ฉันเหมือนกัน เพราะฉะนั้น เป่ยต้าจงเหวินซี่เขาช่วยจุฬามากเลย ช่วยมาตลอด ตั้งแต่ปี 1983 อาจารย์ทุกคนเคยไปช่วยเล็คเชอร์ นี่ก็เป็นความสัมพันธ์ที่ผูกพันกับมหวิทยาลัยปักกิ่ง ได้รับความช่วยเหลือที่ดี ได้รับมิตรภาพที่ดีมาตลอด เป็นเพื่อนรักกันมาตลอด
1 2 3
|