"ในสมัยนั้น อู่เฉงโหลว หรือ ตึก 5 ชั้น ถือได้ว่า เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองไหโข่ว พ่อค้ารายใหญ่มักจะนัดคู่ค้ามาคุยเรื่องการค้าขาย หรือคบค้าสมาคมกับเพื่อนใหม่ๆ ที่อาคารแห่งนี้ เพราะในยุคสมัยนั้น ไม่ว่าการมาพัก มาดื่มเหล้าหรือดื่มกาแฟที่อาคารแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ทางสังคมที่แสดงว่า มีฐานะสูงส่ง"

เมื่อปลายสมัยราชวงศ์เชง เริ่มมีกระแสนิยมเดินทางไปทำมาหากินที่ภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากสะสมเงินก้อนหนึ่งได้แล้ว พวกเขาก็กลับมาสร้างบ้านใหม่ที่บ้านเกิดเมืองนอน เมืองไหโข่วจึงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบเอเชียตะวันออกจำนวนมาก โดยเฉพาะ ในบริเวณเต๋อเซิ่งซา เพราะมีทำเลที่ดี ไปไหนมาไหนสะดวกสบาย

ปี1998 เพื่อสร้างถนนเต๋อเซิ่งซาให้เป็นถนนคนเดินสำหรับการค้าขายสินค้า หน่วยงานบริหารเมืองไหโข่วได้จัดสรรงบประมาณจำนวนกว่า 6 ล้านหยวนตกแต่งและปรับปรุงถนนสายนี้ โดยมีระยะทางทั้งหมด 500 เมตร สองข้างทางส่วนใหญ่เป็น "ฉีโหลว" ที่สูง2-3ชั้น เป็นกลุ่มอาคารพาณิชย์ที่ทำเป็นถนนคนเดินเชื่อมต่ออยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ถนนสายนี้นับเป็นถนนที่รักษารูปแบบอาคารพาณิชย์แบบโบราณนี้ไว้อย่างดีที่สุด และเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ของจีนและต่างประเทศ แสดงให้เห็นวิวัฒนการของเมืองไหโข่ว

ปัจจุบัน ถนนคนเดินย่านการค้าเต๋อเซิ่งซาเป็นตลาดขายส่งและค้าปลีกเสื้อผ้าแห่งสำคัญของเมืองไหโข่ว เสื้อผ้าในตลาดนี้มีมากมายหลากหลาย ราคาก็ไม่แพง ไม่ว่าชายหญิงผู้ใหญ่หรือเด็ก ล้วนสามารถเลือกหาเสื้อที่ตนเองชอบได้ คุณหลี่ ชาวไหโข่วที่นิยมไปเดินตลาดนี้กล่าวว่า

"หากอยากไปตลาดเต๋อเซิ่งซา ต้องไม่กลัวความเหน็ดเหนื่อย เพราะที่นั่นมีทั้งความคึกคัก และมีขนาดใหญ่ด้วย เดินไม่ถึง 1 ใน 10 ก็ต้องพัก หรือเหนื่อยจนต้องกลับเสียก่อน แล้วค่อยมาใหม่ในคราวหน้า และพอมาอีกครั้ง คุณจะพบว่า มีของใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย กล่าวได้ว่า มีของใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน แตกต่างกันทุกคืน และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของเต๋อเซิ่งซา "

หากเดินจนเหน็ดเหนื่อยแล้ว ก็สามารถนั่งพักหรือไปรับประทานอาหารพื้นเมืองที่ร้านอาหารที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกซอกซอยเล็กๆของเตอเซิ่งซาได้นะคะ แม้เป็นร้านอาหารที่ไม่ใหญ่นัก แต่รสชาติแสนอร่อยล้ำส่งกลิ่นหอมมาแตะจมูกคนที่เดินผ่านมาตลอดเวลา ทุกวันนี้ ในยามพลบค่ำ ถ้าได้มีโอกาสนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่สองข้างถนนภายใต้แสงไฟที่สว่างไสว มองดูถนนสายเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยทั้งความโศกเศร้า ความผาสุกและความอิ่มเอิบของชาวไหโข่ว ท่ามกลางลมพัดเย็นสบายจากท้องทะเล ความเหน็ดเหนื่อยทั้งวันจากการเดินช็อปปิ้งก็จะจางหายไป ถ้าท่านมีโอกาสไปเมืองนี้ อย่าลืมแวะไปถนนสายนี้นะคะ