เมื่อเร็วๆนี้ นายหวัง เหมิ่ง นักเขียนที่มีชื่อเสียงของจีนเขียนบทความในหนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้า โดยทบทวนการเปลี่ยนแปลงในช่วง 60 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่สาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้น นายหวัง เหมิ่งมีอายุ 75 ปี ได้ผ่านกระบวนการการพัฒนาของสังคมจีนที่เต็มไปด้วยความยากลำบากอย่างมากในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ มีสื่อมวลชนรัสเซียรายงานว่า จีนพบอุปสรรคมากมาย แต่ไม่เคยล้มจากวิกฤติการแม้แต่ครั้งเดียว อันที่จริง ไม่ว่านายหวังเหมิ่งหรือสื่อมวลชนรัสเซีย ต่างก็มีความเห็นตรงกันว่า ในประวัติศาสตร์ของจีน ประชาชนจีนมีความสามัคคีกันในการต่อสู้กับความยากลำบากอย่างไม่ลดละ
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ปี 2008 มณฑลเสฉวนเกิดแผ่นดินไหวร้ายแรง ทำให้มีชาวจีนเสียชีวิต 1 แสนคน ภัยพิบัติครั้งนี้ทำให้อำเภอเวิ่นชวน ศูนย์กลางที่ของภัยครั้งนี้ถูกทำลายกลายเป็นซากปรักหักพังภายในพริมตา ทำให้ชาวจีนตกอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจขณะที่อีกไม่นานก็จะพากันต้อนรับงานกีฬาโอลิมปิกปักกิ่ง
แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ก็เช่นเดียวกับภัยพิบัติครั้งอื่นๆ ทำให้ประชาชนจีนรวมพลังความสามัคคีกันและแสดงพลังอันยิ่งใหญ่อีกครั้ง ประชาชนจีนรวมแรงร่วมใจกันลงมือฟื้นฟูบ้านเกิดเมืองนอนที่ถูกทำลาย นายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีน นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน และผู้นำรัฐบาลจีนต่างพากันไปบัญชาการกู้ภัยและช่วยแก้ปัญหาครอบครัวผู้ประสบภัย
เวลาผ่านไป 1 ปี อำเภอเวิ่นชวนได้รับการบูรณะสร้างสรรค์อย่างรวดเร็ว และกำลังฟื้นสู่ความเจริญรุ่งเรืองอีก
จีนมีสำนวนว่า ความยากลำบากทำให้ประเทศชาติเกิดความเข้มแข็ง ในกระบวนการพัฒนาประวัติศาสตร์มนุษยชน ทั้งๆที่ชาวจีนพบความยากลำบากอย่างต่อเนื่อง แต่ก็สามารถขจัดอุปสรรคสารพัดได้และก้าวหน้ามาโดยตลอด
ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา จีนเคยเกิดภัยธรรมชาติหลายชนิด เช่น ภัยแล้ง3 ปีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายทศวรรศที่ 1950 แผ่นดินไหวร้ายแรงในเมืองถังซันเมื่อปี 1976 อุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 1998 โรคซาร์สเมื่อปี 2003 ล้วงเป็นการทดสอบประเทศจีน
ในช่วงที่ผ่านมา จีนก็เคยถูกต่างประเทศต่อต้านและคว่ำบาตร ในช่วงที่จีนใหม่เพิ่งสถาปนาขึ้น จีนเป็นประเทศยากจนที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง ประเทศตะวันตกก็ไม่ยอมรับอำนาจรัฐของสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่การต่อต้านจากประเทศตะวันตกไม่ทำให้ประเทศจีนยอมแพ้ จีนใหม่ได้เข้าสู่หนทางการพัฒนาที่เป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง
ในช่วงที่ผ่านมา จีนใหม่ก็เคยหลงทาง ในระหว่างปี 1966-1976 การปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งนั้นทำให้เศรษฐกิจจีนถูกทำลายและเสียหายอย่างหนัก แต่ขณะที่ตระหนักรู้ความผิดพลาด ผู้นำจีนได้พินิจพิจารณาตัวเองและนำประชาชนจีนแสวงหาหนทางการพัฒนาใหม่
1 2
|