วิธีการรับประทานกล้วยหอมเพื่อลดความอ้วนคือ

อาหารเช้า—สลัดกล้วยหอม

เอากล้วยหอม 1 ผล แตงกวาหนึ่งลูก และเนื้อกุ้ง หั่นเป็นชิ้นเล็ก ราดด้วยน้ำสลัด

อาหารเที่ยง—ปอเปี๊ยะกล้วยหอมและข้าวโพด

นำกล้วยหอม 2 ผลที่นิ่มๆ หน่อย ผสมกับเมล็ดข้าวโพดหวานและแป้งสาลี คนให้เข้ากัน แล้ววางบนกะทะทำปอเปี๊ยะ จนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองก็สามารถรับประทานได้แล้ว

อาหารค่ำ—กล้วยหอมและอาหารประเภทถั่ว

คำเตือนคือ ก่อนรับประทานอาหาร 3 มื้อ ควรรับประทานกล้วยหอม 1 ผลและน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว จะได้ผลดียิ่งขึ้น

นอกจากขจัดสารพิษและลดความอ้วนแล้ว กล้วยหอมยังสามารถช่วยป้องกันและรักษาโรคความดันโลหิตสูง เพราะว่า กล้วยหอมอุดมด้วยสารโปแตสเซียม แต่มีเกลือแร่น้อย จึงมีบทบาทรักษาความยืดหยุ่นของหลอดเลือด และช่วยลดความดันโลหิตด้วย นักวิทยาศาสตร์สหรัฐอเมริกาพบว่า การรับประทานกล้วยหอมวันละ 2 ผล ต่อเนื่องกัน 1 อาทิตย์ สามารถลดความดันโลหิตได้ 10% ผลการวิจัยจากนักวิทยาศาสตร์อังกฤษก็พบว่า รับประทานกล้วยหอมบ่อยๆ จะลดความเสี่ยงการเป็นโรคเลือดคั่งในสมองได้ 40%

สำหรับผู้หญิงที่เป็นโรคโลหิตจาง การรับประทานกล้วยหอมก็มีผลเช่นกัน เพราะว่ากล้วยหอมมีธาตุเหล็กมาก และมีสารแคร์รอตมากพอเพียง สามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดแดงมากขึ้น จนแก้อาการโลหิตจางได้

กล้วยหอมยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า "ผลไม้อารมณ์ดี" นักวิจัยเนเธอร์แลนด์เห็นว่า ผลไม้ที่มีสารโภชนาการสมบูรณ์ที่สุด และทำให้ผู้รับประทานมีรอยยิ้มมากขึ้นก็คือ"กล้วยหอม"นั่นเอง เพราะว่ากล้วยหอมสามารถผ่อนคลายความเครียดทางจิตใจ แก้อาการซึมเศร้า ถ้ารับประทานก่อนนอน ยังมีบทบาททำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นด้วย สำหรับผู้ที่เป็นหวัดง่าย รับประทานกล้วยหอมทุกวัน จะช่วยเสริมภูมิต้านทาน ทำให้สุขภาพแข็งแรงยิ่งขึ้น