นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กำหนดจะเดินทางไปเยือนปานามาอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วันนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีจีนเดินทางไปเยือนปานามา โอกาสนี้ นายเว่ย เฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำปานามาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอ เกี่ยวกับความสำคัญของการเยือนปานามาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผลการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ปานามา หลังการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และผลสำเร็จจากการเข้าร่วมงานมหกรรมสินค้านำเข้าระหว่างประเทศของจีน ของนายฮวน คาร์ลอส วาเรลา (Juan Carlos Varela) ประธานาธิบดีปานามาช่วงก่อนหน้านี้
นายเว่ย เฉียงระบุว่า ทั่วประเทศปานามาต่างเฝ้าคอยการมาเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ช่วงระหว่างการเยือน ผู้นำสองประเทศจะจัดการพบปะ หารือเชิงประวัติศาสตร์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างลงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีและเรื่องสำคัญๆ ที่สนใจร่วมกัน นอกจากนี้ ผู้นำสองประเทศยังจะเป็นสักขีพยานการลงนามข้อตกลงความร่วมมือทวิภาคีด้วย
สำหรับผลการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ปานามาหลังการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในช่วง 1 ปีครึ่ง และศักยภาพการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในอนาคตนั้น นายเว่ย เฉียงเปรียบเทียบความสัมพันธ์สองประเทศว่า เป็น “ดั่งขบวนรถไฟความเร็วสูงที่ทรงคุณภาพแข็งแกร่ง” โดยผู้นำสองประเทศให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เศรษฐกิจสองประเทศมีส่วนเกื้อกูลกันเป็นอย่างดี และความสัมพันธ์สองประเทศเป็นปกติตามหลักการ “จีนเดียว”ซึ่งเป็นกระแสทางประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจต้านทานได้
ส่วนความสัมพันธ์จีน-ปานามาในอนาคตนั้น ทูตจีนประจำปานามาระบุว่า ความสัมพันธ์จีน-ปานามาในอนาคตมีอนาคตแจ่มใส สองฝ่ายควรใช้ความได้เปรียบของตนอย่างเต็มที่ ในการเพิ่มความเชื่อถือทางการเมืองและเชื่อมโยงกันในภาคประชาชนให้มากขึ้น พร้อมกันนี้ ควรใช้มาตรการที่เป็นรูปธรรม ดำเนินวาระความร่วมมือที่กำหนดไว้ให้ได้ผลอย่างต่อเนื่อง เพิ่มเนื้อหาให้หลากหลาย ยกระดับคุณภาพการติดต่อให้ประชาชนสองประเทศมีความรู้สึกว่าได้มีส่วนแบ่งปันที่แท้จริง
ปานามามีความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์แบบไม่เหมือนใคร จึงมีบทบาทสำคัญในการค้าระหว่างประเทศ เมื่อปีที่แล้วประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เคยระบุขณะพบกับประธานาธิบดีฮวน คาร์ลอส วาเรลาว่า จีนเห็นลาตินอเมริกาเป็นภาคีสำคัญที่ขาดเสียไม่ได้ในโครงการ “1 แถบ 1 เส้นทาง” โดยปานามาเป็นพื้นที่สำคัญที่เชื่อมต่อกับลาตินอเมริกาในโครงการเส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ 21 ส่วนปานามาเองก็เป็นประเทศลาตินอเมริกาประเทศแรกที่ร่วมลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจของโครงการ “1 แถบ 1 เส้นทาง” กับจีน
ทั้งนี้ นายเว่ย เฉียงระบุว่า การร่วมสร้าง “1 แถบ 1 เส้นทาง” อำนวยประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย โดยผู้ประกอบการจีนที่ก้าวสู่โลกสามารถต่อยอดธุรกิจที่ปานามาแล้ว ส่งอิทธิพลรอบข้าง สู่ทั่วลาตินอเมริกาและแคริบเบียน และไกลกว่านั้นได้อย่างสะดวกมากขึ้น ส่วนปานามาก็สามารถดำเนินความร่วมมือกับผู้ประกอบการจีนที่มีความเข้มแข็ง นำเข้าเงินทุน เทคโนโลยี และประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการมากขึ้น ช่วยสร้างศูนย์โลจิสติกส์ การค้า การเงิน และการเดินเรือของปานามาให้เจริญและมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ การที่ปานามาเป็นประเทศลาตินอเมริกาประเทศแรกที่ร่วมลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจของโครงการ ‘1 แถบ 1 เส้นทาง’ กับจีนนั้น จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จีน-ปานามาสองฝ่ายจะร่วมร่างแผนรายละเอียดเกี่ยวกับการณ์นี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อนำไปปฏิบัติทีละก้าวๆ อำนวยประโยชน์แก่กัน สร้างความสำเร็จ และความสุขสวัสดิ์แก่ประชาชนทั้งสองฝ่ายโดยเร็ว”
(BO/LING/CAI)