10 ประเด็นร้อนในรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลจีนประจำปี 2018

2019-03-14 10:44:23 | CRI
Share with:

图片默认标题_fororder_两会调查4

เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา การประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 13 ครั้งที่ 2 จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง  นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลในรอบปีที่ผ่านมา รวมทั้งรายละเอียดข้อเสนอแนะในกิจการงานของรัฐบาลต่อที่ประชุม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ร่วมกันพิจารณาและตรวจสอบ

1. จีนตั้งเป้าเศรษฐกิจปี 2019 โต 6 - 6.5%

นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวระหว่างรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลว่า  จีนตั้งเป้าให้เศรษฐกิจจีนปี 2019 โต 6 - 6.5 %

เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว  รัฐบาลจีนจะใช้นโยบายการคลังเชิงรุก และนโยบายการเงินที่มีความสุขุมรอบคอบต่อไป   จะใช้นโยบายให้ความสำคัญกับการจ้างงานในอันดับต้นๆ     จะเสริมการประสานนโยบายต่างๆ ให้สอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น  จะประกันให้เศรษฐกิจขยายตัวในระดับที่เหมาะสม  และจะให้เศรษฐกิจสังคมพัฒนาอย่างเป็นปกติและยั่งยืน 

2. จีนจัดวางนโยบายการจ้างงานเป็นนโยบายมหภาคครั้งแรก

รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลที่ยื่นต่อองค์การอำนาจสูงสุดของจีนเพื่อการพิจารณาตรวจสอบนั้น ได้ระบุว่า นโยบายพิเศษด้านการจ้างงานต้องมีความพร้อมในทุกด้าน ซึ่งปีนี้นโยบายการจ้างงานจะถูกบรรจุอยู่ในนโยบายมหภาคของรัฐบาลเป็นครั้งแรก มุ่งชี้นำฝ่ายต่างๆให้ความสำคัญกับการว่าจ้างงานและสนับสนุนการมีงานทำ

ปี 2019 นี้ คาดว่าในเขตเมืองและชุมชนจะมีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นรวมกว่า 11 ล้านตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานจะอยู่ที่ประมาณ 5.5%

3. จีนจะมีการปรับลดภาษีครั้งใหญ่อีก

นายกรัฐมนตรีจีนให้คำมั่นสัญญาในรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลว่า ปีนี้ รัฐบาลจีนมีแผนที่จะปรับลดภาษีครั้งใหญ่อีก โดยเน้นการลดภาระของอุตสาหกรรมการผลิตและธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม

โดยภาษีมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมการผลิตจะลดเหลือ 13% จากเดิม 16% อุตสาหกรรมการขนส่งและการก่อสร้างจะลดเหลือ 9% จากเดิม 10% นอกจากนี้ เพื่อลดภาระของวิสาหกิจ รายงานดังกล่าวยังเสนอให้ปรับลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้าของอุตสาหกรรมการผลิตลงด้วย โดยมีความเป็นไปได้ที่จะลดค่าไฟให้ต่ำลงอีก 10%

4. จีนตั้งเป้าลดจำนวนผู้ยากจนในชนบทลงอีกอย่างน้อย 10 ล้านคน

ปีนี้จีนจะลดจำนวนประชากรที่ยากจนในพื้นที่ชนบทให้น้อยลงอีกอย่างน้อย 10 ล้านคน

โดยมาตรการลดจำนวนผู้ยากจนในปี 2019 นี้ จะพุ่งไปยังการนำพาให้ประชากรในพื้นที่ยากจนมากหลุดพ้นจากความยากจนได้ อุปถัมภ์กิจการที่มีความได้เปรียบและมีเอกลักษณ์พิเศษในพื้นที่ยากจน ลดอัตราการต้องหยุดเรียนหนังสือกลางคันในพื้นที่ยากจนให้น้อยลงอย่างเห็นผลได้ชัด และเพิ่มโควตาการรับนักศึกษาจากพื้นที่ชนบทและพื้นที่ยากจนเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาสำคัญต่างๆ ต่อไป

5. จีนจะลดปริมาณการปล่อยก๊าสซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไนโตรเจนออกไซด์ให้น้อยลง 3%

ปีนี้ รัฐบาลจีนจะดำเนินการป้องกันและกำจัดมลภาวะต่อไป รักษาสภาพวันฟ้าใสต่อจากเดิม โดยจะลดปริมาณการปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไนโตรเจนออกไซด์ให้น้อยลง 3% พร้อมทั้งลดความหนาแน่นของพีเอ็ม 2.5 ในพื้นที่สำคัญให้น้อยลงอีก

ปีนี้ จีนจะกำจัดมลภาวะทางอากาศในพื้นที่กรุงปักกิ่ง นครเทียนสิน มณฑลเหอเป่ย และพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียง ส่งเสริมการกำจัดแหล่งก่อมลพิษ เช่น อุตสาหกรรม การใช้ถ่านหินและการขับรถ เสริมสร้างการป้องกันและกำจัดมลพิษทางน้ำและดิน เร่งรัดการกำจัดกากของเสียและการคัดแยกขยะมูลฝอยในเมือง

6. จีนจะปรับปรุงบรรยากาศการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนให้ดียิ่งขึ้น

นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในที่รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลว่า ต้องทุ่มเทกำลังในการปรับปรุงบรรยากาศการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนให้ดีขึ้น ส่งเสริมสนับสนุนและชี้นำการพัฒนาเศรษฐกิจที่มิใช่ภาครัฐ ปฏิบัติตามหลักการแข่งขันอย่างเที่ยงธรรม มีความเสมอภาคกับวิสาหกิจทุกประเภทในการขอปัจจัยการประกอบธุรกิจ การขอใบอนุญาต การประกอบกิจการ การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลและการประมูล สร้างกลไกประสานงานระหว่างรัฐบาลกับวิสาหกิจให้สมบูรณ์ ส่งเสริมบรรยากาศการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนที่ดี และมีความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ในการคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา ต้องลงโทษพฤติกรรมละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเข้มงวด สร้างบรรยากาศที่ดีเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินงานได้อย่างไว้วางใจ

7. จีนจะเปิดเสรีให้ธุรกิจทุนต่างชาติเข้าสู่หลากหลายแวดวงมากขึ้น

นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนให้สัญญาขณะรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลว่า ปีนี้จะผ่อนปรนข้อห้ามการเข้าตลาดอีกขั้น โดยจะปรับบัญชีรายการข้อห้ามสำหรับทุนต่างชาติให้น้อยลง และให้ธุรกิจต่างชาติประกอบการในหลากหลายแวดวงได้มากขึ้น

นายหลี่ เค่อเฉียงยังแถลงด้วยว่า จีนจะกระจายอำนาจสู่เขตนำร่องการค้าเสรีมากขึ้นโดยจะให้สิทธิในการกำหนดมาตรการปฏิรูปและสร้างสรรค์ใหม่ รวมถึงจะเปิดโซนใหม่ของเขตนำร่องการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ เดินหน้าโครงการเขตนำร่องการค้าเสรีไห่หนาน และหารือโครงการท่าเรือการค้าเสรีที่มีเอกลักษณ์จีน

8. จีนย้ำจุดยืนแก้ข้อขัดแย้งทางการค้าด้วยการเจรจาในฐานะที่เท่าเทียมกัน

รัฐบาลจีนเสนอรายงานผลการดำเนินงานต่อองค์การอำนาจสูงสุดของรัฐ เพื่อให้พิจารณาตรวจสอบ โดยระบุว่า จีนยืนหยัดการแก้ข้อขัดแย้งทางการค้าด้วยการเจรจาในฐานะที่เท่าเทียมกันมาโดยตลอด จีนจะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของตนอย่างจริงจัง และพิทักษ์ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของตนอย่างแน่วแน่

รายงานดังกล่าวย้ำว่า จีนยืนหยัดการพิทักษ์เศรษฐกิจโลกาภิวัตน์และการค้าเสรี ปีนี้ จีนจะเร่งการสร้างสรรค์เครือข่ายเขตการค้าเสรีมาตรฐานสูงให้เร็วขึ้น ผลักดันการเจรจาข้อตกลงอาร์เซป เขตการค้าเสรีจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ และข้อตกลงการลงทุนระหว่างจีนกับยุโรป ผลักดันการหารือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ต่อไป

9. จีนจะเดินหน้าชูบทบาทสำคัญของวิสาหกิจในการสร้างสรรค์“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรีจีนระบุว่า ในการสร้างสรรค์ตามแผน “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” จีนจะยืนหยัดหลักการตลาดและกฎสากล ชูบทบาทสำคัญของวิสาหกิจ

เขาเผยว่า จีนจะผลักดันการเชื่อมโยงสาธารณูปโภค ส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานการผลิตระหว่างประเทศ ขยายความร่วมมือกับตลาดฝ่ายที่สาม จัดฟอรั่มสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางครั้งที่ 2 ให้ลุล่วงด้วยดี และผลักดันการพัฒนาความร่วมมือด้านการลงทุนต่อต่างประเทศให้ดำเนินไปด้วยดีเช่นกัน

10. จีนจัดสรรงบประมาณด้านการศึกษาเป็นสัดส่วนกว่า 4% ในจีดีพี

นายหลี่ เค่อเฉียง กล่าวว่า ต้องพัฒนาการศึกษาที่มีคุณภาพและมีความเที่ยงธรรม ปีนี้แม้ว่าการคลังมีความตึงเครียด แต่งบประมาณการศึกษาจะยังคงอยู่ที่ประมาณ 4% ของจีดีพี ซึ่งเป็นเงินมากกว่า 1 ล้านล้านหยวน

  • เสียงข่าวประจำวัน (20-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (20-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (20-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (19-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (19-11-2567)

郑元萍