จีนชี้สหรัฐฯ เป็นตัวการทำเศรษฐกิจโลกตกต่ำ

2019-05-21 12:47:16 | CRI
Share with:

图片默认标题_fororder_20190521rp1

“แทนที่จะยอมรับผิดกลับย้อนเล่นงานฝ่ายตรงข้าม“เป็นการกระทำที่สหรัฐฯ ใช้ตอบโต้ในเกมส์นี้  เมื่อเร็วๆ นี้ สหรัฐฯ ได้ใช้วิธีที่หนักข้อขึ้น
อย่างเช่น  ก่อนการอภิปรายระดับสูงเกี่ยวกับการค้าและเศรษฐกิจระหว่างจีนกับสหรัฐฯ รอบที่ 11 สหรัฐฯได้โยนความผิดมาให้จีนว่า จีนมีเบื้องหน้าเบื้องหลังในการเจรจาการค้า  และได้ถือเป็นข้ออ้าง  ปรับภาษีศุลกากรเกี่ยวกับสินค้าที่นำเข้าจากจีน คิดเป็นมูลค่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25  ในความเป็นจริง  ทั้งสองฝ่ายได้ถกในประเด็นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ค่อยๆ ปรับความเข้าใจร่วมกันและปฏิบัติตาม  ซึ่งเป็นเนื้อหาของการเจรจา   ฉะนั้น ข้อตกลงยังไม่ได้บรรลุไว้  คำตำหนิที่ว่าจีนมีเบื้องหน้าเบื้องหลังนั้นมากจากไหน
ผู้คนทั้งหลายคงยังจำบันทึกต่างๆ ที่สหรัฐฯ “กลับกลอก”  เมื่อวันที่ 19 เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว  จีนกับสหรัฐฯ ประกาศแถลงการณ์ร่วม  บรรลุความเข้าใจร่วมกันที่จะไม่ก่อสงครามการค้า  แต่ต่อจากนั้น 10 วัน  ทำเนียบขาวไม่พอใจ  ฉีกความเข้าใจร่วมกันที่บรรลุไว้  ประกาศจะเก็บภาษีศุลากรเพิ่มร้อยละ 25 ต่อผลิตภัณฑ์นำเข้าจากจีน   นอกจากนี้เดือนธันวาคมปีที่แล้ว  จีนกับสหรัฐฯ ได้บรรลุความเข้าใจเกี่ยวกับจำนวนจัดซื้อทางการค้า  แต่สหรัฐฯ ได้ขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องในการเจรจาต่อจากนั้น  แม้กระทั่งการคุกคามว่าจะเก็บภาษีเพิ่มอีกด้วย  ทำให้กระบวนการเจรจามีอุปสรรคร้ายแรง
ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลง อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบร้อยปี  ประชาคมโลกกำลังเผชิญหน้ากับการท้าท่ายต่างๆ ร่วมกันเช่น “ตัวแดงในการบริหาร  ตัวแดงความเชื่อถือ  ตัวแดงสันติภาพ  ตัวแดงการพัฒนา”   สหรัฐฯ ในฐานะเป็นมหาอำนาจของโลก  ไม่เพียงแต่ไม่ได้ใช้ความพยายามเพื่อขจัดตัวแดงดังกล่าวหากยังเป็นผู้ก่อให้เกิด “ตัวแดง” เหล่านี้อีกด้วยสหรัฐฯ ได้ใช้ผลประโยชน์ของตนเหนือสนธิสัญญาระหว่างประเทศ  ปฏิบัติตาม “สหรัฐฯ บุริมสิทธิ์” “ถอนตัวออกจากกลุ่ม” อย่างสมัครใจ  โจมตีระบบพหุภาคีและกฎเกณณ์ระหว่างประเทศ  เร่ง “ตัวแดงการบริหาร” ของโลก     รายงานผลการวิจัยเกี่ยวกับการพิพากษาการปะทะขององค์การการค้าโลกเมื่อปี 2017 พบว่า  สหรัฐฯ เป็นผู้ไม่ปฏิบัติตามผลการพิพากษาขององค์การการค้าโลกรายใหญ่ที่สุด  คดีฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ที่องค์การการค้าโลกได้ตัดสินนั้นมี 2 ใน 3 เกิดขึ้นจากสหรัฐฯ
  • เสียงข่าวประจำวัน (26-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (26-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (26-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (25-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (25-11-2567)

郑元萍