กรุงปักกิ่ง เป็นเมืองโบราณแห่งอารยธรรมอันรุ่งโรจน์ที่มีประวัติกว่า 3,000 ปีของจีน หนึ่งในมหานครระดับโลกที่เจริญรุ่งเรืองและทันสมัยที่สุด ผังเมืองที่สง่างามพร้อมกับวัฒนธรรมอันลึกซึ้งทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างหลงเสน่ห์ของกรุงปักกิ่ง ทุกวันนี้ เมืองโบราณแห่งนี้พัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเหมือนดั่งคนหนุ่มสาวที่มีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ ทำให้คนทั่วโลกเห็นถึงความทันสมัยไปพร้อมกับกระแสแฟชั่นของเมือง ปักกิ่งมีสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่มีสไตล์การก่อสร้างอันน่าทึ่ง เช่น โรงละครแห่งชาติ สนามกีฬาแห่งชาติ “รังนก” และศูนย์กีฬาทางน้ำแห่งชาติ “ลูกบาศก์น้ำ” มีย่านศิลปวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ เช่น เขตศิลปะ 798 และหอจิตรกรรมอิฐแดง นอกจากนี้ ยังมีย่านการค้าอันแสนคึกคักอย่าง ซานหลี่ถุน เฉียนเหมิน และซื่อเม่าเทียนเจีย ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านขายสินค้าแปลกใหม่น่าสนใจ ปัจจุบัน กรุงปักกิ่งกลายเป็นเป้าหมายการเดินทางท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกของทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ ที่เปิดประตูรอให้ทุกคนมาสัมผัสกับไลฟ์สไตล์แฟชั่นยุคใหม่
การเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 2008 ทำให้สนามกีฬาแห่งชาติ “รังนก” และ ศูนย์กีฬาทางน้ำแห่งชาติ “ลูกบาศก์น้ำ” ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์กีฬาโอลิมปิกปักกิ่ง กลายเป็น “นามบัตรใหม่” ของกรุงปักกิ่ง สิ่งปลูกสร้างทั้งสองมีแนวคิดจากสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่ว่า “ท้องฟ้ากลม แผ่นดินสี่เหลี่ยม” สนามกีฬาแห่งชาติที่ชื่อว่า “รังนก” ประกอบด้วยโครงสร้างเหล็กกล้า มีรูปทรงแปลกใหม่สะดุดตาไม่เหมือนกับที่อื่น มองจากระยะไกลเหมือนเป็นรังนกขนาดมหึมาสร้างขึ้นจากกิ่งไม้ หลายปีมานี้ สนามกีฬารังนกได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขาดไม่ได้อีกแห่งหนึ่งของการมาเที่ยวเมืองหลวงของจีน เพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูนาว ปีค.ศ. 2022 ซึ่งกรุงปักกิ่งและเมืองจางเจียโข่วในมณฑลเหอเป่ยจะเป็นเจ้าภาพ สนามกีฬารังนกได้รับการปรับเปลี่ยนเป็นสนามแข่งกีฬาหิมะและน้ำแข็งที่ได้มาตรฐานโอลิมปิกฤดูหนาว และจะเป็นเพียงสนามกีฬาแห่งเดียวในโลกที่ใช้สำหรับจัดพิธีเปิดและปิดกีฬาโอลิมปิกทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาว
ขณะที่ศูนย์กีฬาทางน้ำแห่งชาติ “ลูกบาศก์น้ำ” ที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ สนามกีฬารังนก มีรูปทรงลูกบาศก์ขนาดมหึมา ผนังด้านนอกของอาคารสร้างด้วยวัสดุสังเคราะห์พิเศษที่แสงสามารถส่องผ่านได้ ทีมสถาปนิกของศูนย์กีฬาแห่งนี้ใช้ความสามารถในการออกแบบโครงสร้างภายนอกของศูนย์กีฬาทางน้ำแห่งชาติให้มีลักษณะคล้ายกับโมเลกุลน้ำ ดูสวยงามแปลกตาน่าประทับใจเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น ในยามค่ำคืนไฟประดับชนิดต่าง ๆ ที่ติดตั้งทั้งบนสนามกีฬา “รังนก” และ “ลูกบาศก์น้ำ” จะสว่างขึ้น ทำให้บรรยากาศยามค่ำคืนของสนามกีฬา 2 แห่งสวยงามเป็นพิเศษ โดยเฉพาะไฟประดับบนผนังด้านนอกของ “ลูกบาศก์น้ำ” ที่เปลี่ยนสีเป็นระยะ เพิ่มสีสันลูกเล่นให้กับบรรยากาศยามค่ำคืนของศูนย์กีฬาโอลิมปิก ปัจจุบัน สนามกีฬาลูกบาศก์น้ำกำลังมีการปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อต้อนรับงานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว โดยมีแผนใช้สนามแห่งนี้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาเคอร์ลิงและใช้ชั้นใต้ดินเป็นลานสเก็ตน้ำแข็ง กล่าวได้ว่า ภายในปี 2022 สนามกีฬาลูกบาศก์น้ำจะเปลี่ยนเป็นสนามกีฬาลูกบาศก์น้ำแข็งโดยสมบูรณ์
สนามกีฬาทั้งสองแห่งนี้เป็นตัวแทน ที่ตั้งอยู่บนเส้นแกนกลางของกรุงปักกิ่ง ขณะเดียวกันยังเป็นจุดหมายการเดินทางยอดนิยมอันดับหนึ่งที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความทันสมัยของกรุงปักกิ่ง
โรงละครแห่งชาติ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง เป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดยการผสมผสานความเก่าแก่เข้ากับความทันสมัย รวมไปถึงความโรแมนติกกับความเป็นทางการ ภายนอกมีลักษณะเป็นรูปทรงคล้ายไข่ขนาดใหญ่ มีสระน้ำล้อมรอบ ติดตั้งไฟใต้น้ำและน้ำพุโดยรอบ มองจากระยะไกลเห็นเป็นไข่มุกขนาดใหญ่ที่กำลังลอยขึ้นจากน้ำ สิ่งที่น่าสนใจ คือ การจะเข้าไปในโรงละครแห่งนี้ ผู้ชมต้องเดินผ่านทางเดินใต้น้ำความยาว 80 เมตร ยามพระอาทิตย์ตกดิน แสงอาทิตย์สีทองที่สาดกระทบลงบนผนังด้านนอกที่เป็นกระจกของโรงละครเป็นภาพที่งดงามจับตา ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลาค่ำ โรงละครแห่งชาติยังมีการเปิดไฟแสงสีต้อนรับผู้ชม แสงไฟที่ส่องกระทบผืนน้ำในสระโดยรอบอาคาร ถือเป็นการเพิ่มชีวิตชีวาให้กับพื้นที่ใจกลางกรุงปักกิ่ง นายโจนาธาน คอนติ ช่างภาพชื่อดังชาวอเมริกันเคยกล่าวชื่นชมว่า ทิวทัศน์อันสุดตระการตานี้สร้างความตราตรึงแก่ผู้ชม โดยเฉพาะการเดินชมวิวในบริเวณโรงละครแห่งชาติจะทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจเป็นอย่างมาก
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาสัมผัสวิถีชีวิตแฟชั่นของกรุงปักกิ่ง ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารที่มีชื่อเสียงย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด หลังจากเยี่ยมชมสิ่งก่อสร้างอันทันสมัยและมีอัตลักษณ์หลายแห่งแล้ว อีกหนึ่งจุดหมายที่ควรไปเยือน คือ ย่านการค้าที่มีความคึกคักอันดับต้น ๆ ของกรุงปักกิ่ง เขตซานหลี่ถุนเป็นหนึ่งในพื้นที่ใจกลางเมืองที่คึกคักที่สุดของกรุงปักกิ่งในเวลากลางคืน ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้า ภัตตาคาร และผับบาร์มากมายที่เปิดให้บริการโต้รุ่ง หนุ่ม สาว นิยมแต่งตัวตามแฟชั่นมาเดินเที่ยวที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นการนัดเพื่อนสนิทมาดื่มกาแฟ ช็อปปิ้ง ถ่ายรูป หรือลิ้มลองอาหารรสชาติอร่อย เมื่อพูดถึงความน่าเที่ยวของที่นี่ในเวลากลางคืน ชาวปักกิ่งมักบอกว่า “คนที่มาซานหลี่ถุนหลังตกค่ำนั้นเป็นอันไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน” ความคึกคักของที่นี่ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นตัวแทนของวิถีชีวิตนำแฟชั่นในกรุงปักกิ่ง ดังนั้น ที่นี่จึงเป็นเป้าหมายการเดินทางเพื่อสัมผัสกับความคึกคักมีชีวิตชีวาของกรุงปักกิ่งสำหรับนักท่องเที่ยว
เขตเฉียนเหมิน ถือเป็นอีกย่านการค้าที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากชื่นชอบ ตั้งแต่อดีตที่นี่เป็นถนนคนเดินที่รวบรวมร้านค้าดั้งเดิมอายุนับร้อยปี บางร้านมีชื่อเสียงสืบทอดมาตั้งแต่สมัยปลายราชวงศ์ชิง ทุกวันนี้ ร้านค้าที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์จำนวนมากพากันมาเปิดสาขาที่นี่ ทำให้ย่านการค้าแห่งนี้กลายเป็นสถานที่สัมผัสถึงร่องรอยในอดีตและสีสันแห่งความทันสมัย ร้านหนังสือ Page One ริมถนนคนเดินเฉียนเหมิน เป็นร้านหนังสือที่ใส่ใจบรรยากาศภายในร้านเป็นพิเศษ ชื่อเสียงของร้านแห่งนี้แพร่กระจายผ่านอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง เมื่อมาถึงร้าน นอกจากจะเลือกซื้อหรือนั่งอ่านหนังสือได้แล้ว ทุกคนยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการชมนิทรรศการ ดื่มกาแฟ หรือจะท่องอินเตอร์เน็ตก็ทำได้อย่างสบาย ๆ เพียงแค่เดินเลือกหนังสือที่ตัวเองชอบสักเล่มหนึ่ง คุณก็จะได้รับกำลังใจจากคนรอบข้าง ทำให้มีสมาธิในการอ่านหนังสือมากขึ้นไปอีก ขณะที่รู้สึกว่าเวลาค่อย ๆ ผ่านไปอย่างช้า ๆ นายชัด เคส หัวหน้าช่างภาพนิตยสาร National Geographic ของสหรัฐฯ เคยมาร้านหนังสือ Page One สาขาเฉียนเหมิน เขาชื่นชมว่าที่นี่เป็นร้านหนังสือที่ทันสมัยมากในพื้นที่บริเวณพระราชวังต้องห้ามของกรุงปักกิ่ง บรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการอ่านหนังสือ สะท้อนถึงแนวคิดการออกแบบและตกแต่งที่เน้นใส่ใจลูกค้าเป็นพิเศษ
กรุงปักกิ่ง ในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของประเทศขนาดใหญ่ ในสายตาของคนส่วนใหญ่อาจมองว่า ที่นี่เป็นศูนย์กลางทางการเมืองการปกครองที่เต็มไปด้วยความเป็นทางการและเคร่งครึม แต่แท้ที่จริงแล้ว มหานครระดับโลกแห่งนี้ยังมีมนต์เสน่ห์แห่งความเป็นแฟชั่นซ่อนอยู่ พร้อมกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย รอให้นักท่องเที่ยวมาค้นพบ หลังจากเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในกรุงปักกิ่ง เช่น พระราชวังโบราณกู้กง และกำแพงเมืองจีน ซึ่งถือเป็นมรดกที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ยังไม่ควรพลาดการท่องเที่ยวสัมผัสกับวิถีชีวิตแห่งความทันสมัยและแฟชั่นในเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ ที่อ้าแขนคอยต้อนรับให้ทุกคนมาเยือน
(LF/Tim)