วันที่ 21 สิงหาคม ตามเวลาปักกิ่ง กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ รายงานรัฐสภาอย่างเป็นทางการว่า สหรัฐฯ จะจำหน่ายเครื่องบินรบทันสมัยรุ่น F-16 จำนวน 66 ลำ พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง มูลค่าราว 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แก่ไต้หวัน การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและหลักพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ก้าวก่ายกิจการภายในของจีนอย่างรุนแรง ตลอดจนทำลายอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของจีน ดังนั้น จีนจึงคัดค้านเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด พร้อมจะใช้มาตรการที่จำเป็นทุกอย่างเพื่อพิทักษ์ประโยชน์ของประเทศ ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรบริษัทสหรัฐฯ ที่มีส่วนร่วมในการจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ไต้หวันในครั้งนี้
ตามหลักการ “จีนเดียว” ที่กำหนดไว้ในแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ 3 ฉบับ สหรัฐฯ รับรองว่า รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมายเพียงรัฐบาลเดียวของจีน ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน อย่างไรก็ตาม ในอีกแง่หนึ่ง สหรัฐฯ ใช้กฎหมายว่าด้วยความสัมพันธ์กับไต้หวัน (Taiwan Relations Act) ซึ่งเป็นกฎหมายภายในประเทศที่บัญญัติเรื่องการให้ความช่วยเหลือทางการทหารและการจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ไต้หวัน ซึ่งเป็นตัวบั่นทอนความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ
ตั้งแต่รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันขึ้นบริหารประเทศเป็นต้นมา ได้ใช้เกม “จำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์” เพื่อกดดันและถ่วงดุลอำนาจของจีนหลายครั้ง โดยก่อนหน้านี้ วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ได้ผ่าน “กฎหมายว่าด้วยการมอบหมายอำนาจด้านการป้องกันประเทศ ปีงบประมาณ 2020” ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า จะสนับสนุนการจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ไต้หวันต่อไป ต่อมาในเดือนกรกฎาคม สหรัฐฯ ประกาศจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่าราว 2,220 ล้านเหรียญแก่ไต้หวัน และล่าสุดยังจะจำหน่ายเครื่องบินรบทันสมัยรุ่น F-16 พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องแก่ไต้หวัน ซึ่งนับเป็นการจำหน่ายอาวุธยุแก่ไต้หวันที่มีมูลค่าสูงสุดตั้งแต่รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันขึ้นมาบริหารประเทศ ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าว จะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ และสถานการณ์ช่องแคบไต้หวันอย่างไม่ต้องสงสัย
(TIM/LING/ZHOU)