โรคโควิด-19 เป็นความท้าทายที่มนุษยชาติกำลังเผชิญ ซึ่งประเทศจีนได้แสดงความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยด้านสาธารณสุขโลกอย่างดียิ่ง

หลังจากได้รับผลสำเร็จอย่างน่าพึงพอใจในการพยายามป้องกันและควบคุมการระบาดข้ามเมืองและข้ามประเทศอย่างสุดกำลัง ขณะนี้ ประเทศจีน เพิ่มการจับตาสถานการณ์การระบาดในต่างประเทศอย่างมาก

ภายในช่วงเวลาประมาณสองเดือน ประเทศจีนที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ประสบผลดีอย่างมากในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นับเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจของภาครัฐกับประชาชนที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำสงครามสู้วิกฤตโรคระบาดใหญ่ครั้งนี้

ขณะนี้ งานป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีน มาถึงขั้นตอนอันสำคัญยิ่ง ซึ่งภายหลังเกิดการแพร่ระบาด คณะกรรมการสุขภาพอนามัยแห่งชาติจีนและกรมการแพทย์แผนจีนก็ได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนจีนเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นทันที

ระหว่างการตรวจรักษา ทีมผู้เชี่ยวชาญได้สังเกตเห็นว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังมีอาการไม่อยากอาหาร หรือคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูกเป็นต้นร่วมด้วย จึงได้เสนอให้ระหว่างรักษาอาการปอดอักเสบ  ยังต้องปรับสภาพม้ามและกระเพาะอาหารของผู้ป่วยด้วย ซึ่งการยืนหยัดที่จะประยุกต์ใช้แพทย์แผนโบราณของจีนร่วมกับการรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน ถือเป็นการเสริมส่งกัน และสร้างความได้เปรียบที่เด่นชัดยิ่งของงานสาธารณสุขจีน

และตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีมานี้ ภายหลังการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้น การแพทย์แผนจีนก็ได้แสดงบทบาทสำคัญต่อเนื่อง ในการช่วยป้องกันและรักษาโรคระบาดต่างๆ เช่น โรคไข้สมองอักเสบเจอี, โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ, โรคไข้เลือดออก, โรคซาร์ส และโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ เป็นต้น

ยกตัวอย่าง ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950 เมืองสือเจียจวงในมณฑลเหอเป่ย และกรุงปักกิ่ง เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้สมองอักเสบเจอีอย่างรุนแรง  ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงที่เพิ่งสถาปนาประเทศจีนใหม่ขึ้น ทรัพยากรทางการแพทย์และความสามารถการรักษาพยาบาลของจีนยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ อีกทั้งโรคไข้สมองอักเสบเจอีนับเป็นปัญหายากจะแก้ไขได้ในทั่วโลก ยังไม่มีวิธีการรักษาโรคนี้ที่ทรงประสิทธิภาพ อัตราการเสียชีวิตในช่วงต้นของการแพร่ระบาดจึงสูงถึง 50%

ในช่วงนั้นการแพทย์แผนจีนก็ได้เข้าร่วมงานรักษาโรคด้วย โดยนายแพทย์ผู่ ฝู่โจว แพทย์ชื่อดังในสมัยนั้น และเป็นผู้มีประสบการณ์มากพอในการรักษาผู้ป่วยด้วยการแพทย์แผนจีน ได้พิจารณาสภาพอากาศของท้องถิ่น ปรับสัดส่วนของตัวยาสมุนไพรที่ใช้กับผู้ป่วยต่างเมืองให้เหมาะสม ซึ่งมีผลดีในการรักษาอย่างเห็นได้ชัด และภายใต้ความพยายามร่วมกันของการแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบัน การระบาดของโรคไข้สมองอักเสบเจอีก็ได้รับการควบคุมไว้ได้อย่างรวดเร็ว

นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จงดงามยิ่งในการใช้แพทย์แผนจีนผนวกเข้ากับการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งงานป้องกันควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของประเทศจีน การแพทย์แผนโบราณจีนก็ได้เข้าร่วมการรักษาโรคอย่างแข็งขันด้วย

โดยเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการสุขภาพอนามัยแห่งชาติจีนประกาศ “แผนงานรักษาโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ทดลองปฏิบัติฉบับที่ 6” เน้นย้ำถึงคุณค่าและความสำคัญของยาสมุนไพรจีนในการรักษาโรคอีกครั้ง ซึ่งแผนงานรักษาโรคฉบับนี้ มีกรมการแพทย์แผนจีนเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง และมีแพทย์แผนจีนที่ชื่อเสียงและผู้เชี่ยวชาญอาวุโสจากหน่วยงานกำกับดูแลของคณะรัฐมนตรีจีนร่วมกันปรึกษาหารือและกำหนดแนวทาง