เมื่อเร็ว ๆ นี้ หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์ของสหรัฐฯ เผยแพร่บทความหลายชิ้นประณามรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า กำลังโยนความผิดให้กับผู้อื่นรุนแรงยิ่งขึ้น โดยมีสาเหตุมาจาก “การหาเสียงเลือกตั้งทั่วไป” เมื่อคะแนนสนับสนุนลดลงอย่างต่อเนื่อง นักการเมืองในทำเนียบขาวจึงเดือดร้อนมาก แต่ก็ไม่มีวิธีปรับปรุงตัว ดังนั้น การโยนความผิดให้ผู้อื่น จึงกลายเป็นวิธีที่ใช้บ่อยสำหรับพวกเขา
ผู้คนเห็นได้อย่างชัดเจนว่า นักการเมืองสหรัฐฯ ไม่สนใจเสียงคัดค้านจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข แต่กลับเร่งฟื้นการทำงานและการผลิต ผลที่ตามคือ ช่วงหลายวันมานี้ รัฐฟลอริดา เท็กซัส และแอริโซนา พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนนายเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ต้องประกาศระงับมาตรการเปิดรัฐอีกครั้ง วันที่ 25 มิถุนายน นายโรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ คาดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาจเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าจากตัวเลขที่พบอยู่ในปัจจุบัน กล่าวคือ จะสูงถึง 25 ล้านคน
เบื้องหน้าการระบาดอย่างรุนแรงและจำนวนผู้ว่างงานกว่า 40 ล้านคน นักการเมืองสหรัฐฯ กลับยังคงเล่นไพ่เศรษฐกิจได้ต่อไป ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศต่างคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีหน้าจะหดตัว 6.1% - 8%
ด้านหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ เผยแพร่บทบรรณาธิการ ระบุว่า “ปัจจุบันเป็นเวลาที่รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องเอาจริงเอาจังกับการจัดการวิกฤตครั้งนี้”
(Tim/Lin/Zhou)