วันที่ 9 กุมภาพันธ์ การประชุมแถลงข่าวของทีมสืบหาต้นตอโควิด-19 ระหว่างจีนและองค์การอนามัยโลก (WHO) ดร.ปีเตอร์ เบน เอ็มบาเร็ก หัวหน้าคณะฯ กล่าวว่า ข่าวลือที่ว่าไวรัสรั่วไหลจากห้องทดลองนั้น “เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่ง” งานตรวจสอบต้นตอของไวรัสในอนาคตจะไม่แนะนำแนวทางนี้ ข้อสรุปนี้เป็นการแก้ไขความเข้าใจผิดต่อสถาบันวิจัยไวรัสวิทยาอู่ฮั่นอีกครั้งซึ่งผิดพลาดมานานแล้ว ทำให้บรรดานักการเมืองและสื่อสหรัฐฯ รวมถึงประเทศตะวันตกที่สร้างทฤษฎีสมคบคิดข้างต้นจะต้องผิดหวัง

โควิด-19 ไม่ได้เริ่มแพร่ระบาดที่เมืองอู่ฮั่นแต่อาจอุบัติขึ้นจากเมืองอื่น ๆ ของจีน หรือ แพร่ระบาดในประเทศอื่นมาก่อนแล้ว นอกจากนี้ล่าสุดทีมสืบหาต้นตอโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลกยังเปิดเผยว่า โควิด-19 อาจไม่ได้เกิดขึ้นที่อู่ฮั่น

ขณะเดียวกัน ข้อเท็จจริงที่ถูกเปิดเผยออกมาพร้อมกันก็คือสิ่งที่เรียกว่าการใส่ร้ายว่าจีนขัดขวางการตรวจสอบต้นตอของไวรัสฯ ตลอดช่วง 10 วันที่ผ่านมา สมาชิกคณะระหว่างจีนและWHO ได้ร่วมกันศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดจำนวนมาก ผ่านการดูงานหน่วยงาน 9 แห่งและแลกเปลี่ยนอย่างกว้างขวางกับเจ้าหน้าที่การแพทย์ พนักงานห้องทดลอง ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายดี และผู้อยู่อาศัยในเมือง เป็นต้น เช่นเดียวกับดร.ปีเตอร์ เบน เอ็มบาเร็ก สมาชิกคณะผู้เชี่ยวชาญจาก WHO ที่กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กก่อนหน้านี้ว่า เราเสนอให้ไปที่ไหนและไปพบใคร ซึ่งเราก็ได้ไปทุกที่ในรายการรายชื่อและกลุ่มผู้เชี่ยวชาญชาวจีนก็ยินดีที่จะพาเราไปที่นั่นด้วย

จะเห็นได้ว่าจีนทั้งเปิดกว้างและโปร่งใสด้านการตรวจสอบต้นตอของโควิด-19 ทั่วโลก ขณะที่สิ่งที่เรียกว่าการขัดขวางการตรวจสอบนั้นเป็นเรื่องไร้สาระโดยสิ้นเชิง ความจริงเสียงบ่นเหล่านี้ไม่ควรปรากฏขึ้น เนื่องจากแหล่งที่มาของไวรัสเป็นปัญหาทางวิทยาศาสตร์อย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่เรื่องการเมืองและไม่ควรเป็น “เกมแห่งการตำหนิ”

ผลวิจัยเบื้องต้นจากการตรวจสอบต้นตอที่เผยแพร่โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญร่วมพบว่า นอกเหนือจากเชื่อว่าโควิด-19 อาจแพร่สู่ประชากรผ่านโฮสต์ตัวกลางแล้ว ยังสนับสนุนความเป็นไปได้ของการแพร่เชื้อโดยตรงหรือการแพร่สู่ประชากรผ่านอาหารในห่วงโซ่ความเย็น ซึ่งก็ถือเป็นการสนับสนุนความจำเป็นเพิ่มเติมในการตรวจสอบต้นตอของโควิด-19 ทั่วโลกและการดำเนินการตรวจสอบต้นตอทั่วโลกเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับปัญหาเหล่านี้

ให้วิทยาศาสตร์กลับมาเป็นวิทยาศาสตร์ ปล่อยให้มืออาชีพทำงานของมืออาชีพ นี่คือทัศนคติที่มนุษยชาติควรมีในการต่อสู้กับโรคระบาด หวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะทำงานร่วมกับจีน ใช้ทัศนคติเชิงรุกและความร่วมมือในการตรวจสอบต้นตอ ตลอดจนเชิญ WHO ทำการวิจัยตรวจสอบต้นตอเพื่อช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคระบาดสู่มนุษย์ในอนาคต

Tim/kt/cui