สหรัฐมีประชากรคิดเป็น 4% ของประชากรโลก แต่ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันแล้วในสหรัฐฯ กลับมากเป็น 18% ของทั่วโลก เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ควบคุมการระบาดภายในประเทศไม่ได้ รัฐบาลสหรัฐฯ แทนที่จะใช้มาตรการควบคุมและจำกัดการเดินทางของชาวอเมริกัน แต่กลับปล่อยให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายสู่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ถือเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชนทั่วโลก

เนื่องด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจและต้องการคะแนนเสียงเลือกตั้ง เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วซึ่งเป็นช่วงที่โควิด-19 ระบาดอย่างรุนแรง รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศของพลเมืองสหรัฐฯ ทำให้ชาวอเมริกันนับ 10 คนโดยสารรถ รถไฟและเครื่องบินไปสู่ท้องที่ต่างๆ ทั่วโลก เป็นผลให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 เพิ่มความเร็วในการลุกลามไปทั่วโลก ประชาชนประเทศต่างๆ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ไม่คำนึงถึงศีลธรรม จริยธรรมและความเป็นธรรม ส่งผู้อพยพเข้าเมืองที่มิชอบด้วยกฎหมายจำนวนมหาศาลกลับคืนสู่ประเทศ โดยไม่ใช้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาดกับผู้อพยพ ทำให้ให้ทั่วโลกตกอยู่ในความเสี่ยง นอกจากนี้ที่ฐานทัพสหรัฐฯ นอกดินแดนซึ่งกระจายอยู่ในกว่า 100 ประเทศ กรณีที่ทหารอเมริกันที่ประจำอยู่ไม่เคารพและปฏิบัติตามกฎข้อบังคับด้านการป้องกันโรคระบาดและเพิ่มความเสี่ยงของการแพร่กระจายก็มีจำนวนไม่น้อย     

สภาพความจริงดังกล่าวพิสูจน์ว่า สหรัฐฯ ต้องรับผิดชอบต่อการลุกลามของสถานการณ์โควิด-19 และยังเป็นเป้าหมายที่สมควรได้รับการตรวจสอบเพื่อสืบหาต้นตอโควิด-19

BO/LF/ZI