“เหรียญเกียรติยศ 1 กรกฎา" เป็นเกียรติภูมิสูงสุดภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีน วันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 2021 พิธีมอบ "เหรียญเกียรติยศ 1 กรกฎา" จัดขึ้นเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างยิ่งใหญ่ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และประธานาธิบดีจีน มอบเหรียญเกียรติยศแก่ผู้ได้รับรางวัลด้วยตนเอง
เฉพาะสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ผู้สร้างคุณูปการอันยอดเยี่ยมแก่พรรคและประชาชนเท่านั้นจึงมีสิทธิ์ได้รับเกียรติเช่นนี้ พิธีมอบ "เหรียญเกียรติยศ 1 กรกฎา" จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้โดยมีผู้ได้รับเกียรติอันสูงส่งรวม 29 คน รวมถึง ไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนอาวุโส ประจำหมู่บ้านหลายชนเผ่าแห่งหนึ่งในเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียง
หมู่บ้านปู้ลี่ไค ตั้งอยู่ในตำบลเวินหยาเอ่อร์ อำเภออีหนิง ในเขตซินเจียง มีประชากรมากกว่า 6,000 คน รวมถึง ชนเผ่าคาซัค ฮั่น อุยกูร์ หุย และอื่น ๆ ค.ศ. 1981 ไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ ได้รับเลือกจากชาวบ้านเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำหมู่บ้าน กลายเป็นกระดูกสันหลังของครอบครัวใหญ่หลายชนเผ่าแห่งนี้ ตั้งแต่นั้นมาเวลาจัดการทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ในหมู่บ้านแต่ละครั้ง เขาต่างยึดหลักความเป็นธรรม ความเป็นเหตุเป็นผลทำให้เขาได้รับการยอมรับจากชาวบ้าน เขามักพูดว่า "ชาวบ้านทุกชนเผ่าในหมู่บ้านปู้ลี่ไคเป็นครอบครัวเดียวกัน เมื่อครอบครัวมีความสามัคคีกันแล้วเท่านั้นเราจึงจะมีชีวิตที่ดีได้"
ภายใต้การนำของเขาชาวบ้านทุกชนเผ่าในหมู่บ้านปู้ลี่ไคอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านร่วมมือกันขยายพันธุ์ ปลูกต้นไม้และผลไม้ เด็ก ๆ ไปโรงเรียนและเล่นด้วยกัน เมื่อถึงปีใหม่หรือเทศกาลอื่นๆ บรรดาชาวบ้านจะมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองร่วมกัน
จากข้อเสนอของเขาใน ค.ศ. 2012 หมู่บ้านได้ลงทุนสร้างโรงเรียนอนุบาล ทำให้เด็กที่นี่กว่า 200 คนจาก 6 ชนเผ่า ศึกษาเล่าเรียนและเติบโตด้วยกัน เหลย น่า ครูใหญ่ของโรงเรียนอนุบาลกล่าวว่า “ลูก ๆ ของเราจับมือกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้นพวกเขาก็จะมีหัวใจที่เชื่อมโยงกัน”
ในฐานะเลขาธิการพรรคฯ ประจำหมู่บ้านหลายชนเผ่า ไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ ทุ่มเทรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมอย่างแน่วแน่ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง เขารู้ดีว่านี่คือรากฐานแห่งชีวิตที่มีความสุขสำหรับมวลชนทุกชนเผ่า
ในวันธรรมดาเขาร่วมมือกับหน่วยงานรักษาความสงบเรียบร้อยสาธารณะอย่างแข็งขันในการปราบปรามพฤติกรรมผิดกฎหมาย รวมทั้งเสริมสร้างแนวคิดของชาวบ้านผ่านการประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมแนวคิดของชาวบ้านเกี่ยวกับหลักนิติธรรม แนะแนวให้ความรู้แก่ชาวบ้านในการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบวินัยด้วยความสมัครใจ กว่า 30 ปีที่เขาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ ประจำหมู่บ้านไม่เคยมีเหตุการณ์ก่อการร้ายด้วยกำลังรุนแรงเกิดขึ้นในหมู่บ้าน
“หมู่บ้านปู้ลี่ไคเป็นบ้านร่วมกันของชาวบ้านทุกชนเผ่า ใครก็ตามที่คิดจะทำลายบ้านนี้หรือทำร้ายสมาชิกในครอบครัวของเรา เราจะไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาด” ไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ กล่าว
"ไม่ให้ใครต้องทนทุกข์ทรมานจากความยากจน ไม่ให้ใครตกขบวน" เป็นคำมั่นสัญญาของไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ เมื่อครั้งเข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิกาพรรคฯ ประจำหมู่บ้านเป็นครั้งแรก ด้วยเหตุนี้เขาจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อนำพาชาวบ้านพัฒนาการผลิตและปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ ขอเพียงแต่เป็นหนทางที่อาจสร้างความร่ำรวยแก่ชาวบ้านได้ เขาก็จะทำงานอย่างหนักเพื่อทดลองดู
เขาใช้พื้นที่บ้านตัวเองเป็น "สนามทดลอง" ฟักไข่และเลี้ยงลูกไก่ เขาแบ่งปันทุกประสบการณ์และบทเรียนที่เขาได้จากการศึกษาและทดลองแก่ชาวบ้าน ช่วยให้ชาวบ้านหลายครัวเรือนหันมาประกอบธุรกิจเลี้ยงไก่ หม่า ยี่หลิน ชาวบ้านที่นี่มีฟาร์มไก่อยู่แล้วเป็นทุนเดิม เขาต้องการขยายขนาดและปรับปรุงประสิทธิภาพ แต่เขาประสบปัญหาขาดแคลนเทคโนโลยีและเงินทุน เมื่อไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ รับรู้ถึงเรื่องนี้จึงพาเขาไปดูงานที่ฟาร์มไก่สมัยใหม่ ทั้งยังประสานงานเพื่อแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่ น้ำ และไฟฟ้า จนหม่า ยี่หลินพัฒนาฟาร์มไก่ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทุกวันนี้ฟาร์มไก่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งจ้างงานจำนวนมากในหมู่บ้าน เงินเดือนเฉลี่ยของชาวบ้านมากกว่า 30 คน อยู่ที่ระดับ 3,500 หยวน หม่า ยี่หลิน กล่าวว่า "สาขาพรรคฯ และเลขาธิการพรรคฯ ประจำหมู่บ้านเป็นผู้ช่วยผมพัฒนาขึ้นมา ผมก็ต้องการตอบแทนหมู่บ้านและใช้ชีวิตร่วมกับชาวบ้านให้ดี"
เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเกษตรมาบรรยายเพื่อพัฒนาธุรกิจป่าไม้และไม้ผลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ช่วยบรรดาชาวบ้านยื่นขอสินเชื่อขยายขนาดการเลี้ยงโคและแกะ ประสานงานกับสถานประกอบการที่มีตำแหน่งงานเพื่อระดมหนุ่มสาวออกไปทำงาน ภายใต้การนำของไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ ชาวบ้านมี "ถุงเงิน" ที่ค่อย ๆ พอกพูนขึ้น ทุกคนต่างยกย่องเขาเป็นเลขาธิการพรรคฯ ที่ดี ผู้ทุ่มเททำงานโดยอยู่นิ่งไม่ได้
ภายใต้การนำของเขา หมู่บ้านปู้ลี่ไคพัฒนาเสริมสร้างเศรษฐกิจส่วนรวมของหมู่บ้านอย่างต่อเนื่องผ่านการทำสัญญาเช่าที่ดินส่วนรวมกับภายนอก การลงทุนก่อสร้างร้านค้าริมถนนและการสร้างโรงงานอิฐโดยใช้เงินทุนโครงการ เป็นต้น “หากเศรษฐกิจส่วนรวมแข็งแกร่ง ก็สามารถรวมศูนย์กำลังทำสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมแก่มวลชนได้” ไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ กล่าว
เดือนมิถุนายน ค.ศ. 2009 มีชาวบ้านร้องเรียนว่า เขตชุมชนที่เพิ่งสร้างใหม่ในหมู่บ้านไม่มีน้ำประปาใช้ทำให้ต้องตักจากแม่น้ำมาดื่มกิน ไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ ได้รับการจัดสรรทุนมาส่วนหนึ่งผ่านการรายงานต่อผู้บังคับบัญชา พร้อมไปกับการเสนอต่อสาขาพรรคฯ ประจำหมู่บ้านให้จัดงบประมาณ 150,000 หยวนจากรายได้ส่วนรวม ขุดบ่อน้ำในเขตที่อยู่อาศัยใหม่ช่วยให้ชาวบ้าน 120 ครัวเรือนมีน้ำประปาสะอาดใช้และดื่มอย่างสะดวกสบาย
การซ่อมแซมสะพาน ปูถนน ขุดลอกคลอง สร้างเขื่อน... เรื่องดี ๆ มีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านนับวันก็ยิ่งมีความรู้สึกมีความสุขเพิ่มขึ้นเช่นกัน หมู่บ้านปู้ลี่ไคกลายเป็นหมู่บ้านร่ำรวยที่มีชื่อเสียงทั้งในท้องถิ่นและที่ไกลออกไป ถ่าลี่ผู่เจียง อี้ลี่หย่าซือ ชาวบ้าน มีอาชีพเป็นนายหน้าแรงงานในหมู่บ้าน กล่าวว่า "ญาติที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงต่างอิจฉาเรา ยังมีสาว ๆ จำนวนไม่น้อยจากหมู่บ้านใกล้เคียงที่ต้องการแต่งงานกับชายหนุ่มในหมู่บ้านเรา"
ค.ศ.2006 หมู่บ้านปู้ลี่ไคเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่บางคนละเมิดระเบียบข้อบังคับและทำสัญญาเช่าที่ดินส่วนรวมให้กับครัวเรือนที่ใกล้ชิดในราคาที่ต่ำ ไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ ซึ่งลาพักเนื่องจากปัญหาสุขภาพมาเป็นเวลา 5 ปี เข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ ประจำหมู่บ้านอีกครั้ง เขานำพาสาขาพรรคฯ ประจำหมู่บ้านจัดการกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายและทำสัญญาเช่าที่ดินส่วนรวมใหม่ผ่านการประมูลอย่างเปิดเผย
เขากล่าวว่า "สาขาพรรคฯ ประจำหมู่บ้านเป็นองค์กรจัดตั้งระดับพื้นฐานที่สุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ถือเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของพรรคฯ มีแต่รักษาความเป็นธรรมเท่านั้นประชาชนจึงจะไว้วางใจและติดตามพรรคฯ มากยิ่งขึ้น"
สาขาพรรคฯ ประจำหมู่บ้านปู้ลี่ไคยังได้กำหนดระบบการบริหารจัดการทางการเงินที่เข้มงวด ทั้งยังเขียนรายรับและรายจ่ายทุกสตางค์ของส่วนรวมหมู่บ้านลงในกระดานข่าวเพื่อให้ชาวบ้านช่วยกันตรวจสอบ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ของหมู่บ้าน ไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ เรียกร้องให้สมาชิกพรรคฯ แสดงบทบาทเป็นแบบอย่างและผู้นำหน้าลงมือปฏิบัติ เขายังให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อการระดมความกระตือรือร้นของสมาชิกพรรคฯ รุ่นเยาว์เพื่อให้พวกเขาได้รับการศึกษาและเติบโตจากภาคปฏิบัติ
ควบคู่ไปกับชาวบ้านเชื่อถือสาขาพรรคฯ ประจำหมู่บ้านมากยิ่งขึ้น มีชาวบ้านสมัครใจขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคฯ มากขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันมีสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนรวม 82 คนทั่วทั้งหมู่บ้าน พวกเขาไม่เพียงแต่เป็นพลังหลักในการรักษาเสถียรภาพทางสังคมและความสามัคคีทางชนเผ่าเท่านั้น หากยังเป็นผู้นำในการพัฒนาเศรษฐกิจและการสร้างความร่ำรวยด้วยการทุ่มเททำงานอย่างขยันหมั่นเพียร
ไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ เคยใช้ชีวิตยากลำบากในวัยเด็ก เขาต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากชาวบ้านเพื่อเอาชีวิตรอด เครื่องเขียนในการเรียนและรองเท้าผ้าฝ้ายสำหรับฤดูหนาวต่างต้องพึ่งพาการช่วยเหลือจากรัฐบาล เขามักพูดว่า "ผมเป็นเด็กยากจน ถ้าไม่มีพรรคฯ และชาวบ้านปู้ลี่ไคก็คงไม่มีทุกวันนี้ของผมแน่" เมื่อ 47 ปีที่แล้วตอนที่เขาเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคฯ เขาได้ปักใจอย่างแน่วแน่ว่า "จะเดินตามพรรคฯ ตลอดชีวิต ทำงานเพื่อพรรคฯ และทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน"
ปัจจุบันนี้ไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ เกษียณอายุมานานกว่า 8 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกิจกรรมต่าง ๆ ของหมู่บ้าน เช่น ให้ข้อเสนอแนะแก่ส่วนรวม เดินทางประสานงานเพื่อชาวบ้านและช่วยแก้ไขความยากลำบากให้กับชาวบ้าน ในขณะเดียวเขายังประยุกต์ใช้ประสบการณ์การทำงานและชีวิตของตัวเอง และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านปู้ลี่ไคเพื่อสอนประวัติศาสตร์และความรู้เกี่ยวกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนให้กับคนหนุ่มสาวในหมู่บ้าน "ผมหวังว่าพวกเขาจะเข้าใจว่าชีวิตที่ดีในวันนี้ได้มาอย่างไร"
ภายหลังพิธีมอบรางวัล "เหรียญเกียรติยศ 1 กรกฎา" ทันทีที่ ไหมไหม่ถีเจียง อู๋ไหมเอ่อร์ กลับมาถึงหมู่บ้าน เขาแทบรอไม่ไหวที่จะแบ่งปันความสุขจากการรับรางวัลแก่ชาวบ้าน เขากล่าวว่า “นี่คือการชื่นชมการทำงานของหมู่บ้านปู้ลี่ไคจากคณะกรรมการกลางพรรคฯ และเป็นความเอาใจใส่ต่อชาวหมู่บ้านทุกคน พวกเราต้องจดจำไว้ให้ได้ว่าชีวิตที่ดีของเราได้มาภายใต้การนำของพรรคฯ เราต้องเชื่อฟังพรรคฯ และเดินตามพรรคฯ"
TIM/LU