นักข่าวถามถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 19 ส.ค. นิโคลัส เบิร์นส์ (R. Nicholas Burns) เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศจีนให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่าจีนแสดงปฏิกิริยาเกินจริงในเรื่องแนนซี่ เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางถึงไต้หวัน จนกลายเป็นปัจจัยที่ไม่มั่นคงในช่องแคบไต้หวัน นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า เซี่ย เฟิง ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศจีน พบกับเขาหลังจากที่เครื่องบินของเพโลซีมาถึงไต้หวัน ทั้งสองฝ่ายต่อสู้อย่างดุเดือด จีนมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?
โฆษก กต. จีนตอบว่า คำพูดของนิโคลัส เบิร์นส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐ ฯ กลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำ เป็นการแสดงการโต้แย้งอย่างไม่มีเหตุผลและแสดงอำนาจของสหรัฐฯ ก่อนแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เยือนไต้หวัน จีนยื่นคำขาดกับสหรัฐฯ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกระดับ ตอกย้ำความจริงจังและอันตรายของการเยือนของเพโลซีหลายต่อหลายครั้ง ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าผลที่ตามมาทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะก่อความเดือดร้อนให้สหรัฐ อย่าหาว่าเราไม่เตือน
หลังจากที่เพโลซีเดินทางถึงไต้หวัน นายเซี่ย เฟิง ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศจีน พบกับนายนิโคลัส เบิร์นส์ ทูตสหรัฐประจำจีนทันที โดยในนามของรัฐบาลจีน ได้แสดงท่าทีไม่พอใจและประท้วงอย่างรุนแรงต่อสหรัฐ ชี้ว่าสหรัฐจะไปทางของตัวเองและต้องชดใช้ความผิดของตัวเอง ความผิดพลาดต้องรีบแก้ไข ใช้มาตรการเชิงปฏิบัติเพื่อขจัดอิทธิพลที่ไม่ดีของเรื่องการเยือนไต้หวันของเพโลซี
อย่างไรก็ตามแทนที่จะสำนึก ฝ่ายสหรัฐฯ กลับไม่ใส่ใจส่งเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐผลัดกันมาบิดเบือนความจริง พยายามที่จะปัดความรับผิดชอบที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน เทน้ำเน่ารดลงบนหัวจีน
ในตอนเย็นของวันที่ 8 สิงหาคม เซี่ย เฟิง ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศจีน พบกับนิโคลัส เบิร์นส์ ทูตสหรัฐประจำจีนอีกครั้ง โดยแสดงท่าทีไม่พอใจเกี่ยวกับคำพูดไร้สาระของฝ่ายสหรัฐฯ เกี่ยวกับเรื่องจีนตอบโต้การเยือนไต้หวันของเพโลซี และชี้ให้เห็นว่าเป็นฝ่ายสหรัฐฯ ไม่ใช่ฝ่ายจีน ที่จุดชนวนให้เกิดวิกฤต เป็นฝ่ายสหรัฐฯ ไม่ใช่ฝ่ายจีนที่เปลี่ยนสภาพที่เป็นอยู่ในช่องแคบไต้หวัน เป็นฝ่ายสหรัฐฯ ไม่ใช่ฝ่ายจีนที่บ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวัน เป็นฝ่ายสหรัฐฯ ไม่ใช่ฝ่ายจีนที่กำลังแสดงพลังของตนไปทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นฝ่ายสหรัฐฯ ไม่ใช่ฝ่ายจีน เป็นผู้คว่ำบาตรและกลั่นแกล้งโลก เป็นฝ่ายสหรัฐฯ ไม่ใช่ฝ่ายจีนที่บ่อนทำลายรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ และไม่มีความจริงใจในการสื่อสาร เป็นฝ่ายสหรัฐฯ ไม่ใช่ฝ่ายจีน ที่บ่อนทำลายความร่วมมือจีน-สหรัฐฯ
Bo/Patt/Cui