ปฏิทินจีนสีแดง รูปเทพเจ้าซิ่วและเด็กๆ เป็นของคู่บ้านของชาวไทยเชื้อสายจีนหลายครอบครัวมานานกว่า 4 ทศวรรษ นอกจากจะบอกวันเดือนปีแล้ว เอกลักษณ์ของปฏิทินนี้คือ การบอกฤกษ์ยามมงคลและข้อควรระวังในการทำกิจกรรมต่างๆ ตามหลักโหราศาสตร์จีนโบราณ
ปฏิทินนี้ชื่อว่า “ปฏิทินน่ำเอี๊ยง” นิทรรศการโหราศาสตร์น่ำเอี๊ยง ที่จัดแสดงที่ The Art Book Shop ให้ข้อมูลของปฏิทินน่ำเอี๊ยงว่า “น่ำ” หมายถึง ทิศใต้ “เอี๊ยง” หมายถึง พระอาทิตย์ “น่ำเอี๊ยง” จึงได้รับการนิยามว่า แสงอาทิตย์จากแดนใต้ที่เปี่ยมไปด้วยความดีงามและความเจริญรุ่งเรือง
นายเฮียง แซ่โง้ว หรือซินแสเฮียง ชาวจีนแต้จิ๋ว เดินทางจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เมื่อปีพ.ศ. 2482 มาตั้งรกรากที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยนำความรู้ด้านโหราศาสตร์จีนมาประกอบอาชีพ ด้วยความเชื่อว่า โชคชะตาของมนุษย์ต่างกัน หากเข้าใจดวงชะตาตัวเอง ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เหมาะสม นำไปสู่ความรุ่งเรืองได้
ซินแสเฮียงเชี่ยวชาญเรื่องการดูโหงวเฮ้ง การขึ้นดวงด้วยวิธีปาจื้อ การดูฤกษ์มงคลต่างๆ จนมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ และย้ายมาอยูที่กรุงเทพฯ ก่อตั้ง “สำนักโหราศาสตร์น่ำเอี๊ยง” ในปีพ.ศ. 2499
ซินแสเฮียงมีความตั้งใจอยากเผยแพร่โหราศาสตร์จีนให้กับชาวจีนโพ้นทะเล จึงได้จัดทำตำราน่ำเอี๊ยงเพื่อเผยแพร่ใน ปีพ.ศ. 2516 ได้รับความนิยมอย่างมาก
ต่อมา ปีพ.ศ. 2529 ลูกชายของซินแสเฮียง ทายาทรุ่นที่ 2 ได้พัฒนาเนื้อหาโดยการนำโหราศาสตร์จีนผนวกกับเนื้อหาของปฏิทินไทย ปรับรูปแบบเป็นรายเดือน รายวัน และปฏิทินตั้งโต๊ะ เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
จนปัจจุบัน ปีพ.ศ. 2565 ทายาทรุ่นที่ 3 ของซินแสเฮียงยังคงสืบทอดความรู้เรื่องภาษาจีนและโหราศาสตร์จีน ควบคู่กับการเผยแพร่ปฏิทินน่ำเอี๊ยงในช่องทางแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้สนใจได้กว้างขวางขึ้น
ปฏิทินจีน ในอดีตคือตำราฤกษ์ยามสำหรับจักรพรรดิ เรียกว่า “หวงลี่” ระบบปฏิทินจีนสร้างขึ้นจากการสังเกต บันทึก การโคจรของดวงดาว ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ เหตุการณ์ทางดาราศาสตร์อย่างละเอียด นำมาหาความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกับปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ เป็นองค์ความรู้ยาวนานหลายพันปีที่นักปราชญ์จีนถ่ายทอดและพัฒนาจากรุ่นสู่รุ่น กลายเป็นตำราโหราศาสตร์จีน มีการบอกวันเดือนปีผนวกกับดวงดาว และฤกษ์ยาม ต่อมาจึงพัฒนากลายเป็นปฏิทินในปัจจุบัน
สำหรับปฏิทินน่ำเอี๊ยง เมื่อซินแสเฮียงทำตำราโหราศาสตร์แล้ว จึงเห็นว่าน่าจะมีปฏิทินชาวนาที่เห็นภาพรวมทั้งปี จึงจัดพิมพ์แผ่นภาพที่มีทั้งฮวงจุ้ย คำพยากรณ์การเกษตร ทิศมงคล สารทและวันมงคลต่างๆ การเทียบอายุของแต่ละนักษัตร แจกชาวไทยเชื้อสายจีนเพื่อสืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีจีนต่อไป
ต่อมาเมื่อมีความต้องการมากขึ้น จึงมีการพิมพ์ปฏิทินน่ำเอี๊ยงจำหน่ายทั้งแบบรายวัน รายเดือน และประยุกต์ให้มีความสวยงาม เข้ากับยุคสมัย
ปฏิทิน “น่ำเอี๊ยง” ถือเป็นปฏิทินที่มีเอกลักษณ์ตั้งแต่การออกแบบภาพปกปฏิทินโทนสีแดง มีรูปเทพเจ้าซิ่ว ค้างคาว 5 ตัว และเด็กแบกลูกท้อ ที่มีความหมายมงคล
เทพเจ้าซิ่ว เป็นผู้เฒ่าหนวดเคราขาว หน้าตาใจดี ถือไม้เท้ามังกร แขวนน้ำเต้า และมีอายุขัยยาวนาน ชาวจีนเชื่อว่าเป็นเทพที่บันดาลให้มีอายุยืนและสุขภาพดี ภาพของเทพซิ่วจึงมีความหมายถึงการมีอายุมั่นขวัญยืน
ค้างคาว 5 ตัว เป็นสัญลักษณ์ของพร 5 ประการ ค้างคาวในภาษาจีน คือ “ฝู” ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่าฝู ที่หมายถึงพรหรือความสุข 5 ประการ อู่ ฝู ซึ่งคติจีน เชื่อว่า หากใครได้รับพรทั้ง 5 ประกอบด้วย ฉางโซ่ว มีอายุยืนยาว ฟู่กุ้ย มั่งคั่งด้วยทรัพย์สินเงินทอง คังหนิง สุขภาพดี ฮ่าวเต๋อ จิตใจสงบ และซ่านจง การตายอย่างสงบสุข นับว่าเป็นชีวิตที่สมบูรณ์
เด็กแบกลูกท้อถือคฑายู่อี่ เด็กๆ คือตัวแทนแห่งวัยเยาว์และความมีชีวิตชีวา ลูกท้อคือการมีอายุยืน คฑายู่อี่ คือ ความสำเร็จดังหวัง ภาพนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของการอวยพรให้สมปรารถนา อายุยืน ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง
นอกจากการออกแบบแล้ว สิ่งที่ทำให้ปฏิทินน่ำเอี๊ยงเป็นที่นิยมและอยู่คู่กับวิถีชีวิตของชาวไทยเชื้อสายจีนมาหลายสิบปี คือ ข้อมูลตามหลักโหราศาสตร์จีนโบราณ ที่มีข้อมูล ปี เดือน วัน ตามปฏิทินจันทรคติจีน วันและเวลาการเปลี่ยนฤดูเพื่อวางแผนการเพาะปลูก ฤกษ์มงคล นักษัตรเฮงและชงประจำวัน กิจกรรมที่ทำได้และควรเลี่ยง ทิศที่เทพเจ้าสถิตอยู่ ทิศมงคลและอัปมงคลประจำปี คำทำนายโดยรวมประจำวัน วันธงไชยและเหตุการณ์พิเศษ
ซึ่งตอบโจทย์ผู้ใช้ที่จะได้มีข้อมูลโหราศาสตร์ประกอบการใช้ชีวิตประจำวัน ตามความตั้งใจของซินแสเฮียงและทายาทในการเผยแพร่ปฏิทินน่ำเอี๊ยงที่ว่า “หากเราดำเนินชีวิตตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม ย่อมส่งผลให้ชีวิตราบรื่นไร้อุปสรรค”
บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย
ข้อมูล : งานนิทรรศการโหราศาสตร์น่ำเอี๊ยง จัดแสดงที่ The Art Book Shop ห้างเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ชั้น 6
ภาพประกอบ : ปฏิทินน่ำเอี๊ยง 2023