"การควบคุมโควิด-19 ให้เหลือศูนย์" เป็นแนวนโยบายหลักที่จีนได้ยืนหยัดมาโดยตลอดในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ปัจจุบันภายใต้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโควิด-19 ระลอกที่สี่ในขอบเขตทั่วโลก นับตั้งแต่เดือนมีนาคมปีนี้เป็นต้นมาจีนได้เผชิญกับแรงกดดันเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการนำเข้าไวรัสโควิด-19 จากต่างประเทศ ภายในประเทศจีนได้เกิดการระบาดแบบกลุ่มก้อนซึ่งมีลักษณะที่ครอบคลุมหลายพื้นที่ในวงกว้างบ่อยครั้ง ทีมนำสูงสุดของจีนได้เน้นย้ำอีกครั้งว่าต้อง "ยืนหยัดการถือประชาชนสำคัญที่สุด การถือชีวิตสำคัญที่สุดโดยตลอด ยืนหยัดการดำเนินการอย่างแม่นยำและถูกหลักวิทยาศาสตร์และควบคุมโควิด-19 ให้เหลือศูนย์ เพื่อยับยั้งแนวโน้มการแพร่กระจายและลุกลามของโรคระบาดโดยเร็วที่สุด"
แต่ทว่าภายใต้สภาพที่ตัวเองรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิดอย่างไร้ประสิทธิภาพ ประเทศตะวันตกบางประเทศได้วิพากษ์วิจารณ์เชิงลบอยู่เนืองๆ ต่อการดำเนินการอย่างต่อเนื่องของจีนตามนโยบายการควบคุมโควิดให้เหลือศูนย์ สื่อตะวันตกบางสำนักได้ตีพิมพ์บทความโดยระบุว่าค่าใช้จ่ายในการควบคุมโควิดให้เหลือศูนย์ของจีนนั้นสูงเกินไป หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลของสหรัฐฯตีพิมพ์บทความเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้โดยกล่าวว่า "กลยุทธ์การควบคุมโควิดให้เหลือศูนย์ของจีนนั้นได้นำมาซึ่งความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน เศรษฐกิจทั่วโลกเผชิญกับภัยคุกคาม" เว็บไซต์สถานีวิทยุเสียงอเมริกา (Voice of America) เผยแพร่บทความเมื่อเร็วๆนี้โดยระบุว่านโยบายการควบคุมโควิดให้เหลือศูนย์ของจีนได้ส่งผลกระทบต่องานและชีวิตของผู้คนในทุกด้าน ส่วนหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ (Financial Times)ก็ได้ตีพิมพ์บทความที่ระบุว่า บริษัทต่างประเทศจำนวนมากมีความไม่พอใจต่อการควบคุมโควิดให้เหลือศูนย์ในจีน เนื่องจากกิจกรรมการผลิตจำนวนมากของพวกเขาพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศที่ต้องการเข้าประเทศจีนเพื่อดำเนินการทดลองใช้และอัพเกรดเครื่องจักร
นักวิเคราะห์เห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบของสื่อตะวันตกดังกล่าวโดยเนื้อแท้แล้วเป็นการเข้าใจผิดหรือการบิดเบือนต่อแนวคิดค่านิยมที่ถือประชาชนและชีวิตสำคัญที่สุด ระบบการบริหารจัดการประเทศและสภาพประเทศขั้นพื้นฐานของจีน
เพราะในความเป็นจริงการควบคุมโควิดให้เหลือศูนย์ของจีนไม่ใช่เพื่อแสวงหา “การติดเชื้อเป็นศูนย์” แต่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเร็วที่สุดเท่าจะเร็วได้ พยายามบรรลุผลลัพธ์ให้มากที่สุดในการป้องกันและควบคุมด้วยต้นทุนที่น้อยที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับสภาพประเทศของจีนและกฎแห่งวิทยาศาสตร์ แต่หากจีนเลือกที่จะ "อยู่ร่วมกับไวรัสโควิด" เช่นเดียวกับประเทศตะวันตกหลายๆ ประเทศในปัจจุบัน เนื่องจากจีนมีประชากรจำนวนมหาศาล ก็ย่อมจะปรากฏผู้ป่วยอาการหนักและผู้เสียชีวิตจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จีนรับไม่ได้
เป็นที่แน่นอนว่ามีปัญหาและช่องโหว่บางประการดำรงอยู่ในระหว่างการต่อสู้กับโรคโควิดของจีน แต่ถือเป็นเรื่องรองเมื่อเปรียบเทียบกับผลสำเร็จด้านการป้องกันและควบคุมโรคโควิด บนพื้นฐานของการลงลึกทำความเข้าใจไวรัสโควิด-19 และการลงลึกกุมกฎแห่งการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไม่หยุดยั้ง จีนได้ปรับปรุงมาตรการป้องกันและควบคุมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นมาโดยตลอด ตัวอย่างเช่น ในคู่มือว่าด้วยปฏิบัติการจัดการตรวจทดสอบกรดนิวคลีอิกเวอร์ชันล่าสุด ขอบเขตของการทดสอบกรดนิวคลีอิกได้เปลี่ยนจาก "ทุกคน" เป็น "บางพื้นที่" โดยเน้นที่ "วิทยาศาสตร์และความแม่นยำ" มากยิ่งขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่า นโยบายของจีนในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นประโยชน์ต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน ข้อเท็จจริงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การยืนหยัด"การควบคุมโควิดให้เหลือศูนย์"นั้น สามารถช่วยให้จีนเป็นผู้นำหน้าการฟื้นฟูการทำงานและการผลิตในโลกได้ พร้อมกับเป็นหลักประกันด้านเสถียรภาพและความมั่นคงของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน
นอกจากนี้ ตามความต้องการของการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จีนได้ดำเนินมาตรการจำกัดการเข้าออกประเทศที่จำเป็น ซึ่งได้สะท้อนถึงแนวคิดแห่งการถือประชาชนและชีวิตสำคัญที่สุด และเป็นความต้องการในการสร้างหลักประกันแก่ผู้ประกอบการในตลาดประเภทต่างๆ ซึ่งรวมถึงวิสาหกิจทุนต่างชาติด้วยในการดำเนินการผลิตและการค้าขายได้อย่างเป็นปกติ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาจีนได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อประกันความต้องการเคลื่อนย้ายบุคลากรที่จำเป็นของวิสาหกิจทุนต่างชาติด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การเปิดช่องทางด่วนและเที่ยวบินตรงแบบเช่าเหมาลำ เป็นต้น เท่าที่ทราบจีนจะปรับเปลี่ยนนโยบายการเข้าเมืองสำหรับผู้ที่จะเดินทางมายังจีนตามการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์การป้องกันและควบคุมการระบาดของโควิด-19 เพื่อพยายามฟื้นฟูการไปมาหาสู่กันทางด้านบุคลากรตามปกติโดยเร็วที่สุด
กล่าวโดยสรุปแล้วการที่จีนยืนหยัด "การควบคุมโควิดให้เหลือศูนย์" ในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 นั้น เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดหลังจากได้พิจารณาปัจจัยด้านต่างๆอย่างเต็มที่แล้ว อีกทั้งจีนมีพื้นฐานและเงื่อนไขในการดําเนินการได้ ซึ่งได้สะท้อนให้เห็นถึงข้อได้เปรียบอันโดดเด่นที่สืบเนื่องมาจากการนําของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและระบบสังคมนิยมที่มีอัตลักษณ์จีน ประชาคมระหว่างประเทศควรวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบให้น้อยลงและเพิ่มความเข้าใจให้มากขึ้น ร่วมกันสร้างคุณูปการในการเอาชนะโรคโควิด-19 ของทั่วโลก
YIM/LU