เมื่อเร็วๆนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้พบหารือกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่กรุงปักกิ่ง สมเด็จฮุน เซน เป็นผู้นำต่างประเทศคนแรกที่ได้รับเชิญให้เยือนจีนในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิปี 2023 จากการพบหารือกันในครั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ได้ร่วมกันเปิดยุคใหม่แห่งการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของสองประเทศ
คนทั้งหลายจะไม่มีวันลืมว่าเมื่อ 3 ปีก่อน ในช่วงเวลาคับขันที่ประชาชนจีนต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น สมเด็จฮุน เซน ได้"สวนกระแส" ฝ่าคลื่นลมและหิมะเดินทางเยือนจีนเพื่อแสดงออกถึงความแน่วแน่ในการสนับสนุนจีนให้ต่อสู้กับโรคระบาด
ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จีนกับกัมพูชาได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการต่อสู้กับโรคระบาด กลายเป็นภาพสะท้อนการร่วมทุกข์ร่วมสุขกันของทั้งสองประเทศ “ไม่ว่าจะเป็นการเยือนเมื่อ 3 ปีก่อนหรือการเยือนครั้งนี้ ข้าพเจ้าต่างก็หวังที่จะสื่อสารอย่างชัดเจนว่า ประชาชนกัมพูชาแน่วแน่ในการยืนเคียงข้างประชาชนจีนมาโดยตลอด” สมเด็จฮุน เซน กล่าว
กาลเวลาที่ผ่านพ้นมาได้บันทึกไว้ซึ่งการก้าวย่างอย่างมั่นคงของทั้งสองประเทศในการร่วมกันก้าวไปข้างหน้า และเป็นประจักษ์พยานถึงความสัมพันธ์จีน-กัมพูชา ที่มีระดับที่สูงและมีความพิเศษ
ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กับนายกรัฐมนตรีฮุน เซน มีการติดต่อกันอย่างใกล้ชิด ได้พบปะและหารือกันทางโทรศัพท์มากกว่า 10 ครั้ง ซึ่งได้ขยายบทบาทยุทธศาสตร์ผู้นำที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างลึกในทุกด้านระหว่างจีนกับกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การดูและเอาใจใส่ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย มิตรภาพจีน – กัมพูชาจึงเจริญงอกงาม มั่นคงแน่นแฟ้น นับวันยิ่งเปี่ยมไปด้วยพลังใหม่ ๆ การพัฒนาความสัมพันธ์จีน – กัมพูชาได้สร้างแบบฉบับสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่
เดือนเมษายนปี 2019 จีนกับกัมพูชาได้นำหน้าลงนามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ซึ่งไม่เพียงแต่อัดฉีดแรงผลักดันใหม่แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีเท่านั้น หากยังได้สั่งสมประสบการณ์จากการปฏิบัติที่สำคัญและขยายบทบาทการนำร่องที่สามารถนำไปใช้ในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระดับภูมิภาคกระทั่งมนุษยชาติทั้งมวล
ปี 2023 เป็นวาระครบรอบ 65 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับกัมพูชา ก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายได้กำหนดให้ปีนี้เป็นปีแห่งมิตรภาพจีน-กัมพูชา และตัดสินใจร่วมกันที่จะจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองต่างๆ เพื่อส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันและไมตรีจิตรมิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ
ระหว่างการพบหารือครั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวว่า จีนยินดีที่จะ "ร่วมมือกับกัมพูชาเพื่อสร้างประชาคมจีน-กัมพูชาในยุคใหม่ที่มีอนาคตร่วมกัน มีคุณภาพสูง มีระดับสูง และมีมาตรฐานสูง" การกำหนดเป้าหมายใหม่ครั้งนี้ได้ชี้ให้เห็นจุดสูงสุดแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-กัมพูชา ทั้งยังบ่งบอกถึงความคาดหวังใหม่ของประชาชนทั้งสองประเทศที่มีต่อความร่วมมือฉันมิตรระหว่างจีนกับกัมพูชา
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเน้นย้ำด้วยว่า จีน"ยินดีที่จะร่วมแบ่งปันโอกาส แสวงหาความร่วมมือ และส่งเสริมการพัฒนากับกัมพูชาในระหว่างกระบวนการผลักดันการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งใหญ่แห่งประชาชาติจีนอย่างรอบด้านด้วยความทันสมัยแบบจีน" และกล่าวด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายจะเสริมสร้างความร่วมมือใน 6 สาขาที่สำคัญอันได้แก่การเมือง กำลังการผลิต การเกษตร พลังงาน ความมั่นคงและวัฒนธรรม มุ่งเน้นการสร้างกรอบความร่วมมือ "เพชรหกเหลี่ยม"ระหว่างจีนกับกัมพูชา
สมเด็จฮุน เซน ได้ตอบสนองในเรื่องนี้อย่างแข็งขันโดยกล่าวว่า กัมพูชาหวังที่จะใช้วาระครบรอบ 65 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัมพูชากับจีนเป็นโอกาสในการเสริมสร้างมิตรภาพแบบ“กระบองเหล็ก”ระหว่างกัมพูชากับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตลอดจนลงลึกกระชับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปกครองพรรคและประเทศชาติ รวมถึงลงลึกกระชับความร่วมมือในด้านต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม
ระหว่างการเยือนจีนของสมเด็จฮุน เซนในครั้งนี้ จีนและกัมพูชาได้ลงนามเอกสารความร่วมมือทวิภาคีหลายฉบับทั้งทางด้านการทูต เศรษฐกิจและการค้า ความร่วมมือด้านการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐาน การคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรม เป็นต้น
บนหนทางสานฝันเพื่อบรรลุการพัฒนาของประเทศ การที่จีนกับกัมพูชาร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดนั้นย่อมจะเพิ่มศักยภาพการพัฒนาได้มากยิ่งขึ้น เพิ่มนัยและพลังขับเคลื่อนมากยิ่งขึ้นแก่การสร้างประชาคมจีน-กัมพูชาที่มีอนาคตร่วมกัน และนำผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมมาสู่ประชาชนทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงของโลก ยุคสมัย และประวัติศาสตร์กำลังดำเนินไปด้วยรูปบบที่ไม่เคยมีมาก่อน สถานการณ์ระดับภูมิภาคก็ดึงดูดความสนใจเช่นกัน สำหรับกิจการระหว่างประเทศและภูมิภาค จีนและกัมพูชามีความเห็นพ้องต้องกันอย่างกว้างขวางและมีความปรารถนาร่วมกัน
ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นที่สนใจร่วมกัน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ย้ำว่าจีนยืนอยู่ข้างที่ถูกต้องทางประวัติศาสตร์ จะปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนาแห่งชาติอย่างเด็ดเดี่ยว ตลอดจนปกป้องความยุติธรรมและความเป็นธรรมระหว่างประเทศ นายกรัฐมนตรีฮุน เซน กล่าวว่า ข้อริเริ่มว่าด้วยการร่วมสร้าง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ข้อริเริ่มว่าด้วยการพัฒนาทั่วโลก และข้อริเริ่มว่าด้วยความมั่นคงทั่วโลกที่เสนอโดยจีนนั้น มีความหมายสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาสันติภาพของโลกและส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน กัมพูชาสนับสนุนและจะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้ออก "แถลงการณ์ร่วมระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสร้างประชาคมจีน-กัมพูชาที่มีอนาคตร่วมกันในยุคใหม่" การสร้างประชาคมจีน-กัมพูชาที่มีอนาคตร่วมกันในยุคใหม่ที่สืบทอดมิตรภาพจากรุ่นสู่รุ่น ที่มีเนื้อหามากมาย และแสดงให้เห็นถึงคุณค่าแห่งกาลเวลานั้น ย่อมจะนำมาซึ่งความผาสุกมากยิ่งขึ้นให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศอย่างแน่นอน รวมถึงสั่งสมพลังบวกมากยิ่งขึ้นต่อสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาในภูมิภาค
YIN/LU