วันที่ 25 กุมภาพันธ์ นายยาสุโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของญี่ปุ่น จัดการประชุมเกี่ยวกับแผนการปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีลงสู่ทะเลที่เมืองอิวากิ อำเภอฟุกุชิมะ

สำนักข่าวเกียวโตของญี่ปุ่นรายงานเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังดำเนินแผนการที่จะรวบรวมเนื้อหา “น้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีจากโรงงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะที่ปล่อยลงสู่ทะเลไม่เพียงแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์ หรือสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีวิธีแก้ไขที่โปร่งใสและถูกต้อง” ให้อยู่ในแถลงการณ์ร่วมของการประชุมสุดยอด G7 ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้

ผลการวิจัยล่าสุดจากสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาสมุทรเกาหลีใต้และสถาบันวิจัยพลังงานนิวเคลียร์เกาหลีใต้แสดงให้เห็นว่าหากน้ำที่ปนเปื้อนกัมมันตรังสีถูกปล่อยออกจากพื้นที่ทะเลฟุกุชิมะทางฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น ธาตุกัมมันตรังสีทริเทียมในน้ำจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกพร้อมกับกระแสน้ำอุ่นญี่ปุ่น และจะแผ่กระจายไปทั่วมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือในอีก 10 ปีข้างหน้า

รายงานการประเมินที่ประกาศโดยทีมงานทางเทคนิคขององค์กรพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศเมื่อปีที่แล้วแสดงให้เห็นว่า แผนการปล่อยน้ำเสียเข้าทะเลของญี่ปุ่น ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัย

มหาสมุทรเป็นพื้นฐานสำหรับการอยู่รอดและการพัฒนาของทุกประเทศในโลก ในฐานะผู้ลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ญี่ปุ่นมีภาระหน้าที่ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล ตั้งแต่ปี 2013 รัฐบาลญี่ปุ่นได้เสนอแผนการกำจัดน้ำเสีย 5 ฉบับ และสาเหตุที่พวกเขาเลือกที่จะปล่อยน้ำเสียลงทะเลคือมีต้นทุนที่ต่ำที่สุด หากญี่ปุ่นยืนหยัดที่จะปล่อยมลพิษลงสู่ทะเล ประชาคมระหว่างประเทศควรดำเนินการร่วมกัน เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ส่วนรวมด้วยวิธีการทางกฎหมาย

Bo/Ldan/Zhou