การประชุมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เป็นกิจกรรมทางการทูตพหุภาคีระดับสูงสุดและมีขนาดใหญ่ที่สุดที่ริเริ่มและเป็นเจ้าภาพโดยจีน เมื่อเช้าวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา มีพิธีเปิดการประชุมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"ครั้งที่ 3 ที่กรุงปักกิ่ง
ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 10 ปีการเสนอแนวคิดข้อริเริ่ม"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" การประชุมสุดยอดปีนี้ไม่เพียงแต่เป็นงานรำลึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่านั้น หากยังเป็นป้ายบอกระยะทางอันสำคัญในการชี้นำการร่วมสร้าง"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"อย่างมีคุณภาพสูงให้ก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่อง
นอกจากพิธีเปิด งานเลี้ยงต้อนรับ และการประชุมนักธุรกิจแล้ว การประชุมสุดยอดครั้งนี้ได้จัดฟอรั่มระดับสูง 3 ฟอรั่มเพื่อดำเนินการแลกเปลี่ยนเชิงลึกเกี่ยวกับหัวข้อว่าด้วยการเชื่อมต่อกัน การพัฒนาสีเขียว และเศรษฐกิจดิจิทัล
นอกจากนั้นยังได้จัดฟอรัมคู่ขนานอีก 6 ฟอรั่มในหัวข้อพิเศษต่างๆ เช่น การอำนวยความสะดวกทางการค้า ความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน การแลกเปลี่ยนคลังสมอง เส้นทางสายไหมที่สะอาด ความร่วมมือระดับท้องถิ่น และความร่วมมือทางทะเล เป็นต้น
คำบรรยายภาพ : นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ครั้งที่ 3 และกล่าวปาฐกถาพิเศษ ณ กรุงปักกิ่ง เมื่อเช้าวันที่ 18 ตุลาคม ปี 2023 (ภาพจากสำนักข่าวซินหัว)
นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ร่วมพิธีเปิดและแสดงปาฐกถาพิเศษ โดยได้เน้นย้ำคีย์เวิร์ดสำคัญสี่คำ ได้แก่ "ความตั้งใจเริ่มแรก" "ผลลัพธ์" "ประสบการณ์" และ "ปฏิบัติการ"
ด้าน"ความตั้งใจเริ่มแรก"
นายสี จิ้นผิง ได้อรรถาธิบายว่า "ปีนี้ถือเป็นวาระครบรอบ 10 ปีที่ข้าพเจ้าเสนอข้อริเริ่มว่าด้วยการร่วมสร้างหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ความตั้งใจเริ่มแรกของการเสนอข้อริเริ่มนี้คือ เรียนรู้จากเส้นทางสายไหมโบราณ ถือการเชื่อมต่อกันเป็นแนวทางหลัก เสริมสร้างการแลกเปลี่ยนด้านนโยบาย การเชื่อมต่อกันด้านสิ่งอำนวยความสะดวก การอำนวยความสะดวกทางการค้า การไหลเวียนทางการเงิน และการเชื่อมต่อกันระหว่างประชาชนกับนานาประเทศ เพื่ออัดฉีดแรงผลักดันใหม่ให้กับการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก เปิดพื้นที่ใหม่สำหรับการพัฒนาระดับโลก และสร้างแพลตฟอร์มใหม่ให้กับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ"
ด้าน "ผลลัพธ์"
การร่วมสร้าง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ถือเป็นเรื่องใหม่ ระหว่างการเดินทางที่ผ่านมาใช่ว่าจะไร้ขวากหนามกีดขวางและความสงสัย นายสี จิ้นผิง ระบุในปาฐกถาพิเศษครั้งนี้ว่า "ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เราได้ยึดมั่นความตั้งใจเริ่มแรก เดินหน้าร่วมกัน ขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างประเทศ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ให้“จากไม่มีสู่มี” จนได้รับการพัฒนาอย่างคึกคักและบรรลุผลสำเร็จอันงดงาม"
นายสี จิ้นผิง พูดถึงการเปลี่ยนแปลง 3 ด้านเป็นสำคัญ ได้แก่ ความร่วมมือ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ได้ขยายจากทวีปยูเรเชียไปถึงแอฟริกาและละตินอเมริกา ได้ก้าวย่างจากขั้นตอน "งานพู่กันด้วยมือเปล่า" สู่ขั้น "ภาพวาดอันพิถีพิถัน" และได้ขยายการเชื่อมต่อกันจากด้านฮาร์ดแวร์ถึงด้านซอฟต์แวร์
ด้าน "ประสบการณ์"
ในการกล่าวปาฐกถาพิเศษครั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ได้สรุปความตระหนักอันลึกซึ้งใน 3 ด้าน ประการแรก มนุษยชาติเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันซึ่งต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน ประการที่สอง มีเพียงความร่วมมือแบบได้ชัยชนะด้วยกันเท่านั้นจึงจะสามารถบรรลุสิ่งต่างๆ สิ่งดีๆ และสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ ประการที่สาม เจตนารมณ์แห่งเส้นทางสายไหมอันได้แก่ สันติภาพและความร่วมมือ การเปิดกว้างและครอบคลุม การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน การอำนวยประโยชน์แก่กันและได้ชัยชนะร่วมกันนั้น ถือเป็นแหล่งพลังที่สำคัญที่สุดสำหรับการร่วมสร้าง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"
ด้าน "ปฏิบัติการ"ซึ่งถูกมองว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
นายสี จิ้นผิง ได้ประกาศปฏิบัติการ 8 ประการของจีนในการสนับสนุนการร่วมสร้าง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" อย่างมีคุณภาพสูง ได้แก่ สร้างโครงข่ายเชื่อมโยงสามมิติ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" สนับสนุนการสร้างเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้าง ดำเนินการความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมการพัฒนาสีเขียว ผลักดันการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สนับสนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน สร้างถนนแห่งความซื่อสัตย์สุจริต และปรับปรุงกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"ให้สมบูรณ์
คำบรรยายภาพที่ : นายสี จิ้นผิง ถ่ายภาพหมู่ร่วมกับแขกผู้เกียรตินานาชาติที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ครั้งที่ 3 เมื่อเช้าวันที่ 18 ตุลาคม ปี 2023 (ภาพจากสำนักข่าวซินหัว)
ปฏิบัติการ ทั้ง 8 ประการล้วนมีมาตรการที่เป็นรูปธรรม
ตั้งแต่การสร้างช่องทางโลจิสติกส์ใหม่ในทวีปยูเรเชียและการสร้างเขตนำร่องความร่วมมือ "อีคอมเมิร์ซเส้นทางสายไหม" ไปจนถึงการยกเลิกข้อจำกัดการเข้าสู่ตลาดจีนสำหรับทุนต่างชาติในภาคการผลิตอย่างครอบคลุมและเสนอข้อริเริ่มว่าด้วยการกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์ระดับโลก จากการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมแลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"ครั้งแรกและการจัด" จัดฟอรั่มเหลียงจู่" ไปจนถึงการดำเนินโครงการช่วยเหลือชีวิตประชาชนขนาดเล็ก 1,000 โครงการและการสร้างระบบประเมินความซื่อสัตย์และชอบธรรมของวิสาหกิจ"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ฯลฯ ปฏิบัติการเหล่านี้ล้วนเปี่ยมไปด้วยสาระสำคัญและความสร้างสรรค์
ในการกล่าวปาฐกถาพิเศษครั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ยังได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับโลกจากมุมมองของความทันสมัย โดยชี้ให้เห็นว่า "สิ่งที่เราพยายามบรรลุให้สำเร็จนั้นไม่ใช่การทำให้จีนบรรลุความทันสมัยเพียงฝ่ายเดียว แต่เราหวังที่จะบรรลุความทันสมัยร่วมกับประเทศอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากมายด้วย"
นายสี จิ้นผิง อธิบายถึงเอกลักษณ์"ความทันสมัยของโลก"ว่า ความทันสมัยของโลกควรเป็นความทันสมัยแห่งการพัฒนาอย่างสันติ เป็นความทันสมัยแห่งการร่วมมือที่อำนวยผลประโยชน์แก่กัน และเป็นความทันสมัยแห่งความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน การร่วมกันเดินบนหนทางสู่ความทันสมัยนั้นเป็นทางเลือกที่ชัดเจนของจีน
นายสี จิ้นผิงเน้นย้ำว่าจีนยินดีที่จะลงลึกกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือ"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"กับทุกฝ่าย ผลักดันการร่วมสร้าง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ให้ก้าวสู่ขั้นตอนใหม่ของการพัฒนาอย่างมีคุณภาพสูง และจะใช้ความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อบรรลุความทันสมัยของทุกประเทศในโลก
IN/LU