เมืองเซินเจิ้นของมณฑลกว่างตง ปี 1979 ท่านเติ้งเสี่ยวผิงผู้ออกแบบการปฏิรูปจีนครั้งใหญ่เพื่อเปอดประเทศสู่ภายนอก ได้จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรกของจีน ช่วงเวลาเพียงแค่ 30 ปี ที่นี่ได้พัฒนาจากตำบลเล็กริมฝั่งทะเลทางภาคใต้ ที่มีประชากรไม่ถึง 3 หมื่นคน กลายเป็นมหานครทันสมัยระดับโลกที่มีประชากรกว่า 18 ล้านคน การเติบโตของจีดีพีรวดเร็วเฉลี่ยต่อปีที่เป็น  24.8% ทำให้ชาวโลกชื่นชม “ความมหัศจรย์เซินเจิ้น” กลายเป็นตัวแทนและสัญลักษณ์ของการปฏิรูปเปิดสู่ภายนอกของจีน 

เดือนธันวาคมปี 1978 ท่านเติ้ง เสี่ยวผิงได้จัดเสนอการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 11 ซึ่งเป็นการเปิดฉากของสมัย “การปฏิรูปภายใน การเปิดสู่ภายนอก” ของจีน ทำให้เศรษฐกิจและสังคมจีนพัฒนาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง หลังจากนั้น ประเด็นสำคัญของการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนทุกครั้ง ล้วนให้ความสำคัญต่อการผลักดันให้การปฏิรูปและเปิดสู่ภายนอกลงลึกยิ่งขึ้น อย่างเช่น การประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 12 ที่จัดขึ้นในปี 1984 ได้วางแผนนโยบายการปฏิรูประบบเศรษฐกิจที่ถือเมืองเป็นสำคัญ ส่วนการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 14 ที่จัดขึ้นในปี 1993 ได้ผลักดันการปฏิรูประบบเศรษฐกิจการตลาดแบบสังคมนิยม การปฏิรูปและเปิดสู่ภายนอกกลายเป็นนโยบายพื้นฐานในการบริหารประเทศชาติของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

 

ปี 2013 มีจัดการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 18 กลุ่มผู้นำชุดใหม่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะผลักดันการปฏิรูปต่อไปอย่างไร กลายเป็นประเด็นที่ชาวโลกสนใจ เมื่อเผชิญความท้าทายทั้งในและต่างประเทศ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงที่เข้าดำรงตำแหน่งเพียง 1 ปี ได้ชี้ให้เห็นถึงทิศทางประวัติศาสตร์ของการพัฒนาจีน โดยระบุว่า กระบวนการการปฏิรูปและเปิดสู่ภายนอกของจีนเข้าสู่ “เขตน้ำลึก” 

 การประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 18 ได้ตรวจสอบพิจารณาและผ่าน “ข้อตกลงเกี่ยวกับปัญหาสำคัญหลายประการเพื่อดำเนินการปฏิรูปอย่างรอบด้านและลงลึกของกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน” ซึ่งนับเป็นการผลักดันการปฏิรูปเชิงประวัติการณ์อีกครั้งของจีน และเป็นการเริ่มต้นสมัยใหม่ของการปฏิรูปอย่างรอบด้านและลงลึก การผลักดันการปฏิรูปด้วยการออกแบบโดยรวมอย่างมีระบบ

 

ต่อจากนั้น การประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 19 ได้ตรวจสอบพิจารณาและผ่านข้อตกลงและแผนการเกี่ยวกับการปฏิรูปองค์กรของพรรคฯ และรัฐบาลอย่างลงลึก ซึ่งเป็นการเปิดฉากการปฏิรูปองค์กรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การปฏิรูปและเปิดสู่ภายนอกเป็นต้นมา และนับเป็นหลักประกันด้านองค์กรสำหรับการปฏิรูปอย่างรอบด้านและลงลึกยิ่งขึ้น 

ปีนี้ ก่อนที่จะจัดการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้นัดประชุมกับเหล่านักธุรกิจ เพื่อตรวจสอบพิจารณาแผนการปฏิรูปหลายฉบับ เช่น “ความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบวิสาหกิจทันสมัยที่มีเอกลักษณ์ของจีนให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น” ทั้งได้เสนอว่า “การปฏิรูปอย่างรอบด้านและลงลึก ควรผูกพันกับการผลักดันความทันสมัยแบบจีนอย่างแน่นแฟ้น” นี่เป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนของการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20