หลังจากรองประธานาธิบดีสหรัฐฯเสร็จสิ้นการเยือนอิรักเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ มีสื่อมวลชนรายงานว่า พรรคไอเอ็นเอ (Iraqi National Alliance) พันธมิตรฝ่ายชีอะห์ที่ได้ที่นั่งเป็นอันดับสามของสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จะส่งสารถึงนายนูรี อัล-มาลิกิ นายกรัฐมนตรีอิรักคนปัจจุบัน เพื่อแสดงว่า จะไม่สนับสนุนให้นายมาลิกิดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ข่าวนี้จะสร้างโอกาสในการแก้แก้ปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลอิรักได้หรือไม่นั้น ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากสื่อมวลชน

วันที่ 5 กรกฎาคมนี้ ผู้นำของพรรคไอเอ็นเอผู้หนึ่งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทางอินเตอร์เน็ตว่า พรรคการเมืองในพันธมิตรดังกล่าวมี 5 พรรคได้ลงนามในสารที่จะยื่นต่อนายมาลิกิฉบับหนึ่ง เพื่อแสดงว่าไม่สนับสนุนให้นายมาลิกิดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ รายงานระบุว่า พรรคการเมือง 5 พรรคนี้รวมถึงพรรคคณะกรรมการสูงสุดอิสรามิก ซึ่งเป็นฝ่ายชีอะห์ใหญ่ที่สุดในอิรัก สารฉบับนี้จะยื่นต่อสำนักนายกรัฐมนตรีอิรักในเร็วๆนี้

นักวิเคราะห์เห็นว่า เนื่องจากพรรคไอเอ็นเอครอง 70 ที่นั่ง ซึ่งเป็นอันดับสามในสภาผู้แทนราษฎร หากพันธมิตรนี้ไม่สนับสนุนนายมาลิกิดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็จะเป็นโอกาสสำคัญในการแก้ปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งยืดเยื้อมาเป็นเวลาหลายเดือน

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศอิรักเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ เนื่องจากไม่มีพรรคใดได้รับเสียงข้างมาก พรรคต่างๆมีข้อโต้แย้งกันตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จนไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ แม้จะผ่านการเลือกตั้งมาเป็นเวลานานแล้วก็ตาม

หลังจากประกาศผลการเลือกตั้ง นายอิยาด อัลลาวี อดีตรักษาการนายกรัฐมนตรีและนายมาลิกินายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันต่างติดต่อกับพันธมิตรอื่นๆ หาเสียงสนับสนุน เพื่อจะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวาระต่อไป พรรคไอเอ็นเอที่มี 70 ที่นั่ง จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง

ก่อนหน้านี้ พรรคไอเอ็นเอไม่ได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่าจะสนับสนุนนายมาลิกิหรือนายอัลลาวี เนื่องจากภายในพรรคเองก็มีข้อขัดแย้งกัน จากเหตุที่ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนนายมาลิกิ แต่นายมุคทาดา อัล-ซาดร์ ผู้นำกลุ่มชีอะห์คัดค้านนายมาลิกิดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ปัจจุบัน ปัญหาสำคัญที่สุดของอิรักก็คือ ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ ส่วนการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสงคราม การแก้ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และการประกันให้กองทหารสหรัฐฯถอนออกจากอิรักตามกำหนด ต่างต้องอาศัยการชี้นำของรัฐบาลชุดใหม่ที่เข้มแข็ง วันที่ 4 เมษายนนี้ อิรักประกาศแผนพัฒนาแห่งชาติระยะ 5 ปีฉบับใหม่ โดยกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ 9.4% ต่อปี และจะใช้มาตรการลดอัตราการว่างงานให้น้อยลงอย่างมาก ดังนั้น การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่จึงเป็นภาระเร่งด่วนของอิรักในขณะนี้

Min/Sun