ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอ รายงานว่าเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานพาณิชย์ฯ ณ กรุงปักกิ่ง ได้ดำเนินโครงการสร้างเครือข่ายธุรกิจไทยในจีนตอนเหนือ เพื่อผลักดันให้มีการสร้างเครือข่ายธุรกิจไทยในจีนโดยเฉพาะในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นตลาดสำคัญในจีนตอนเหนือ ประชากรมีรายได้เฉลี่ยสูง และเป็นต้นแบบของผู้บริโภคในเมืองอื่นๆของจีน โดยการสร้างเครือข่ายธุรกิจไทยในจีน มีกิจกรรมสำคัญที่ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี2553 ได้แก่ การเปิดพื้นที่แสดงและจำหน่ายสินค้าของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ(ศศป.) และสินค้าไลฟ์สไตล์ของสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทยที่กรุงปักกิ่ง รวมทั้งการเปิดเว๊ปไซท์จำหน่ายสินค้าดังกล่าว ในระบบ online ในจีน เป็นต้น

การลงนามบันทึกความร่วมมือรวม 4 ฉบับในวันนี้ เป็นการลงนามระหว่างฝ่ายไทย คือ

นายกุญญพันธ์ แรงขำ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ และ นายสุพัฒน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย กับคณะนักธุรกิจจีนซึ่งประกอบด้วย Mr. He Junbo ประธานบริษัท LianHe Taihua และ Mr. Yang Bo ประธานบริษัท M.R.P.Group เพื่อการเปิดพื้นที่แสดงและจำหน่ายสินค้าของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (ศศป.) และสินค้าไลฟ์สไตล์ของสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทยที่กรุงปักกิ่ง รวมทั้งการเปิดเว๊ปไซต์จำหน่ายสินค้าดังกล่าว ในระบบ online ในจีน ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มการส่งออกสินค้าหัตถกรรมและสินค้าไลฟ์สไตล์ของไทยไปยังตลาดจีนได้เป็นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาทในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

1. การเปิดพื้นที่เป็นศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (ศศป.) และสินค้าไลฟ์สไตล์ของสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย ที่กรุงปักกิ่ง ที่จะเปิดดำเนินการแห่งแรกประมาณเดือนมีนาคม 2554 ที่อาคาร "The Village Sanlitun" ซึ่งเป็นย่านธุรกิจการค้าระดับสูงในกรุงปักกิ่ง โดยมีพื้นที่ของศูนย์ประมาณ 250 ตารางเมตรที่ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกไทย และมีแผนงานที่จะเปิดตัวประชาสัมพันธ์ Brand ของ ศศป. และสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย ในเดือนเมษายน 2554 รวมทั้งจะขยายสาขาไปในเมืองอื่นๆของจีน

2. การเปิดเว๊ปไซต์จำหน่ายสินค้า ของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ(ศศป.) และสินค้าของสมาชิกสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย ในระบบ online ซึ่งจะเป็นช่องทางสำคัญอีกทางหนึ่งในการรุกตลาดจีน เนื่องจากปัจจุบัน ธุรกิจการซื้อขายสินค้าผ่านระบบ online ของจีนกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2553 มีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 5 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ถึงกว่าเท่าตัว

นอกจากนี้ ในปี 2554 จะมีการสร้างเครือข่ายธุรกิจไทยในจีน โดยมีแผนงานที่อยู่ระหว่างการเจรจาต่อเนื่องจากปี 2553 เช่น

1. การเปิดมุมจำหน่ายผลไม้ไทยในร้านอาหารไทย ซึ่งในปี 2553 ได้ประสานงานให้ผู้ส่งออกผลไม้ไทยเปิดมุมจำหน่ายผลไม้ไทยคุณภาพสูงในร้านอาหารไทยในปักกิ่งหลายแห่ง และในปี 2554 จะเปิดมุมจำหน่ายผลไม้และขนมไทย รวมทั้งสินค้าหัตถกรรมและสินค้าไลฟ์สไตล์ไทยเพิ่มเติมในร้านอาหารไทย Banana Leaf ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยรายใหญ่ที่สุดในจีน ที่ปัจจุบันมีสาขา 49 แห่ง และจะขยายเป็น 100 สาขาในปี 2556

2. การเปิดพื้นที่ "THANN SPACE" ในกรุงปักกิ่ง เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปา"THANN"ของไทย โดยบริเวณดังกล่าวจะประกอบด้วย ร้านอาหารอิตาเลี่ยน (ที่เป็นร้านสาขาจากประเทศไทย) โรงแรมขนาดเล็ก ( ฺBoutique Hotel) บริการสปาไทยแบบครบวงจร โดยจะออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกไทย และคาดว่าเปิดดำเนินการภายในปี 2554 ซึ่งจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าและบริการจากไทย รวมถึงขยายโอกาสทางการค้ามายังตลาดจีนตอนเหนือที่มีศักยภาพอีกมาก

พันธสัญญา โชติธนพุทธิพงษ์