การให้บริการน้ำชาดับร้อน "ฝูฉา 伏茶" นี้มีประวัติความเป็นมายาวนานเป็นร้อยๆ ปีแล้ว โดยในสมัยโบราณตามชนบทต่างๆ จะมีการต้มน้ำชามาตั้งแจกไว้ให้บริการ ณ ศาลาคลายร้อนที่ถือเสมือนเป็นจุดแวะพักที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อคอยให้บริการแก่ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาได้ใช้เป็นที่พักพิงและดื่มแก้กระหาย และแม้ว่าปัจจุบันธรรมเนียมแบบนี้จะลบเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่ยังมีชาวเมืองเมืองหนึ่งของจีนที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา นั่นก็คือ เมืองเวินโจว
เวินโจวเป็นเมืองชายทะเล หนึ่งในเมืองเศรษฐกิจสำคัญของมณฑลเจ้อเจียง
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจีน
เมืองเวินโจว มีสภาพภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวได้รับอิทธิพลลมหนาวที่แห้งแล้งจากทางเหนือ ส่วนฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนได้รับอิทธิพลจากลมทะเลนำความชุ่มชื่นทำให้มีฝนตกชุก จึงนับว่ามีเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีครบสี่ฤดู แบบไม่หนาวหนักและร้อนจัดจนเกินไป อุณหภูมิโดยเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 18 องศาเซลเซียส ซึ่งจากข้อมูลการจดบันทึกของสถานีตรวจวัดสภาพอากาศของเมืองเวินโจวปรากฏว่า ในแต่ละปีจะมีช่วงสภาพอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 10-28 องศาเซลเซียส ยาวนานถึง 9 เดือน หรือราว 6,500 ชั่วโมง คิดเป็น 74%ของทั้งปี
"ฝูชา" เป็นชาที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจีนกว่าสิบชนิด อาทิ ดอกสายน้ำผึ้ง ชะเอม
มีคุณสมบัติดับร้อนและแก้กระหาย โดยจะมีรสออกหวานหน่อยๆ
ดื่มได้อย่างคล่องคอ เป็นที่ชื่นชอบทั้งเด็กและผู้ใหญ่
และนอกจากเมืองเวินโจวจะมีสภาพอากาศพอเหมาะพอดี ผู้คนในเมืองก็ยังมีจิตใจที่อบอุ่น มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันโดย มีการตั้งจุดให้บริการน้ำชา "ฝูฉา" ดื่มดับกระหายคลายร้อนได้ฟรีไม่มียั้ง โดยจะมีการตั้งเต็นท์ต้มชาให้บริการในช่วงหน้าร้อนราวต้นเดือนหกถึงปลายเดือนแปดตามปฏิทินจันทรคติจีน หรือตรงกับในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนของทุกปี และตั้งกระจายอยู่ทั่วไปตามถนนหรือที่ชุมชนสาธารณะต่างๆ กว่า 30 จุดทั่วเมืองเวินโจว
โดยอาสาสมัครที่มาคอยให้บริการต้มชงแจกให้ดื่มฟรีตลอดทั้งวันนี้ เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่เกษียณอายุแล้วในเขตย่านนั้นๆ เป็นแกนหลักที่มารวมตัวกัน เพื่อเป็นตัวกลางถ่ายทอดความเอื้ออาทรให้แก่คนในสังคมด้วยกัน ซึ่งผู้ที่แวะเวียนมาดื่มก็จะมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่สัญจรผ่านไปมา ไปจนถึงคนทำงานที่เป็นขาประจำอย่างผู้ใช้แรงงาน พนักงานขับรถแท็กซี่ หรือคนขับรถสามล้อ ที่จะแวะมาดื่มคลายร้อนกันคนละแก้วสองแก้ว หรือบางคนนำขวดน้ำหรือกระติกส่วนตัวติดมา ขอเติมน้ำชากลับไปดื่มต่อบนรถหรือนำกลับไปบ้าน ก็ไม่เป็นที่ขัดข้องแต่อย่างใด ซึ่งการแบ่งปันน้ำใจให้แก่กันที่ยึดถือปฏิบัติกันมานาน จนเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวินโจวไปแล้วนี้ ไม่เพียงแต่จะตั้งจุดให้บริการน้ำชาในหน้าร้อนเท่านั้น แต่ ยังมีการตั้งหม้อต้มโจ๊กแจกในตอนหน้าหนาวอีกด้วย โดยจะมีชาวเมืองนำเงินมาสมทบบริจาคอยู่เป็นประจำไม่ขาดสาย
ช่วงเวลาให้บริการจะมีขึ้นในราว 7-8 โมงเช้า ไปจนถึง 4-5 โมงเย็น
ซึ่งในช่วงที่อากาศร้อนจัดๆ อาจต้องต้มกันถึง 10 ตันต่อวันเลยทีเดียว
แม้ว่า "ฝูชา" จะเป็นชาต้มสมุนไพร ที่ดื่มดีมีประโยชน์ช่วยดับร้อนอย่างที่กล่าวไป แต่แพทย์แผนจีนก็ยังมีข้อแนะนำและคำเตือนว่า ควรดื่มในขณะที่ยังอุ่นๆ และสำหรับผู้ที่กระเพาะและม้ามมีปัญหา สุขภาพร่างกายอ่อนแอควรดื่มแต่น้อยหรือระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะสมุนไพรที่ผสมใส่ไปนั้นไม่ใช่จะเหมาะกับทุกคน และหรือถึงจะมีสุขภาพแข็งแรงดีแต่การดื่มมากเกินควร จากที่ให้คุณจะเปลี่ยนเป็นให้โทษได้เช่นกัน