ในฐานะที่เป็นเมืองหลวงเก่า 1 ใน 6 ของจีน กรุงปักกิ่งเป็นต้นกำหนดของวัฒนธรรมอันหลากหลายในสมัยโบราณ ร้านค้าที่มีชื่อเสียงเก่าแก่จากราชวงค์หมิงและราชวงศ์ชิง ได้คงรักษาความคึกคักทางการค้าจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากผลิตสินค้าพื้นเมืองที่ชาวปักกิ่งนิยม และเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างมณฑลและต่างประเทศมาสัมผัสชีวิตในเมืองหลวงเก่าแห่งนี้
ร้านค้าที่มีชื่อเสียงเก่าแก่กำเนิดมาจากความเจริญทางด้านการค้า หลังจากราชวงค์หมิงย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ปักกิ่งแล้ว การก่อสร้างผังเมืองของปักกิ่งเป็นระเบียบมากขึ้นสำหรับการพัฒนาทางด้านการค้า กำแพงเมืองชั้นในและชั้นนอกที่คนสมัยใหม่รู้จักก็สร้างขึ้นในช่วงนั้น การขุดคลองที่เชื่อมเมืองหางโจวกับเมืองปักกิ่งก็อำนวยประโยชน์ในด้านการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างภาคใต้กับภาคเหนือ ทำให้ปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองที่มีคนอยู่อาศัยมากที่สุด กลายเป็นศูนย์กลางทางคมนาคมด้วย ดังนั้น พ่อค้าที่มีชื่อเสียงจากทั่วประเทศจึงพากันเดินทางมารวมตัวกันที่ตลาดในปักกิ่ง
ในช่วงกลางของราชวงค์หมิง เพื่อสร้างความเจริญทางการค้าที่ปักกิ่ง ราชสำนักเคยให้พ่อค้ากว่า 27,000 รายย้ายมาอยู่ปักกิ่ง โดยให้ตั้งร้านค้าหรือโรงงานในเขตเฉียนเหมิน ซีตัน ตงซื่อ กู่โหลและอื่นๆซึ่งเป็นย่านการค้าที่คึกคัก ทำให้สินค้าชั้นนำของทั่วประเทศมีขายที่ปักกิ่ง ร้านค้าที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ซึ่งคนรุ่นหลังรู้จักดีหลายแห่ง ก็เริ่มจัดตั้งขึ้นพร้อมนโยบายการสนับสนุนของราชสำนัก เช่น"เป็ดย่างเปี่ยนอี๋ฝั่ง"และ"ผักดองหลิ่วปี้จวี"ซึ่งเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน ล้วนมีประวัติยาวนานกว่า 500 ปีแล้ว ในรัชกาลของจักรพรรดิคังซี จักรพรรดิเฉียนหลงและจักรพรรดิเจียชิ่ง เศรษฐกิจและการค้าของปักกิ่งเจริญที่สุด ร้านค้าที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อทุกวันนี้ เช่นเนื้อวัวเนื้อแพะตุ๋นของยั่วเสริ้งจัย ภัตตาคารเนื้อย่างเข่าโร่ย่วน ร้ายขายยาโถงเหรินถัง ร้านขายหมวกหม่าจวี้หยวน ต่างเริ่มสะสมชื่อเสียงในยุคนั้น จนสามารถรักษาความน่าเชื่อถือกว่าร้อยปี นับได้ว่า ความได้เปรียบทางเศรษฐกิจจากการเป็นเมืองหลวงเก่าของปักกิ่ง เป็นสิ่งสนับสนุนที่ดีสำหรับร้านค้าที่มีชื่อเสียงเก่าแก่
บรรดาร้านค้าที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ของปักกิ่งไม่เพียงแต่เป็นทำให้การค้าคึกคักเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศทางวัฒนธรรมในสมัยเก่าด้วย ชาวปักกิ่งมีสำนวนว่า "ไปไม่ถึงกำแพงเมืองจีนไม่ใช่ชายชาตรี ขณะที่หากไม่ได้กินเป็ดย่างก็เสียเที่ยวมาปักกิ่ง" จึงทำให้เป็ดย่างของร้านฉวนจวี้เต๋อและเปี่ยนอี๋ฝั่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของปักกิ่งที่ชาวโลกรู้จัก ส่วนคำพูดติดปากของชาวบ้านที่ว่า "สุกี้เนื้อแพะหม้อไฟของภัตตาคารตงไหลสุ้นนุ่มอร่อยเหลือเกิน" "ผ้าเช็ดโต๊ะของร้านผักดองหลิ้วปี้จวีได้สัมผัสรสเปรี้ยว หวาน ขม เค็มครบทุกรสชาติ" "ยาของร้านโถงเหรินถางไม่ปลอมและคุ้มราคา" ต่างพรรณนาถึงเอกลักษณ์ของร้านค้าที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ดังกล่าวอย่างมีชีวิตชีวา
ปักกิ่งเป็นมหานครโลกที่มีวัฒนธรรมหลายชนชาติผสมผสานกัน ร้านค้าที่มีชื่อเสียงเก่าแก่หลายร้าน แต่เดิมไม่ได้เกิดขึ้นที่ปักกิ่ง ส่วนใหญ่สร้างชื่อเสียงในเขตแคว้นอื่นมาก่อน แล้วเจ้าของร้านเหล่านี้ก็ทยอยกันเดินทางไปตั้งร้านค้าที่เมืองหลวง ดังนั้น ร้านค้าที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ของปักกิ่งจึงมีสินค้าและวิธีการค้าขายที่เหนือกว่า จนกลายเป็นสีสันที่น่าสนใจและมีอยู่เฉพาะที่ปักกิ่งเท่านั้น แพรไหมของเมืองซูโจวเมืองหางโจว ใบชาของมณฑลอันฮุย เครื่องดินเผาของมณฑลเจียงซี อาหารทะเลของเมืองกว่างโจว อาหารรสชาติมณฑลซานตง สมุนไพรของมณฑลซานซีรวมทั้งขนมจากนครเซี่ยงไฮ้ ล้วนขายดิบขายดีในปักกิ่ง กล่าวได้ว่า ไม่ว่าคนจีนมณฑลไหนไปถึงปักกิ่ง ต่างสามารถพบสินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงจากบ้านเกิดของตนในตลาดเมืองหลวง ปัจจุบันชื่อเสียงของสินค้าเก่าแก่ รวมทั้งวิธีการประกอบธุรกิจที่เป็นตัวของตัวเอง กลายเป็นสินทรัพย์ไร้รูปแบบอันล้ำค่าในประเทศจีน