การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในชีวิตประจำวัน
  2013-08-12 14:10:50  cri
ขณะนี้ ชาวโลกยอมรับทั่วไปแล้วว่า ภาวะโลกร้อนเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อการดำรงอยู่ของมนุษยชาติและสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย เมื่อพายุฝน แผ่นดินไหว อากาศร้อนหรือหนาวผิดปกติเกิดขึ้นบ่อยๆ ทั่วโลก ทำให้คนปัจจุบันตระหนักถึงผลกระทบอันใหญ่หลวงที่การเคลื่อนไหวของมนุษยชาตินำมาสู่สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ

ตั้งแต่เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นต้นมา มนุษยชาติใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลมาอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาของอุตสาหกรรมการผลิตสิ้นเปลืองน้ำมันปิโตรเลียม ถ่านหินและแก๊สธรรมชาติจำนวนมาก พร้อมกันนั้น ได้ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และแก๊สเรือนกระจกชนิดอื่นๆ จำนวนมหาศาลออกมาด้วย เป็นสาเหตุโดยตรงที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ การตัดต้นไม้และทำลายพื้นที่ป่าไม้ ยิ่งทำให้โลกใบนี้ร้อนเร็วขึ้น เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ปี 2010 องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกประกาศรายงานว่าด้วยภูมิอากาศโลกว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่โลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีสูงที่สุด ยังผลให้ภูเขาน้ำแข็งที่ขั้วโลกค่อยๆ ละลาย และทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ประเทศเกาะและประเทศที่ติดทะเลต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่น้ำทะเลจะท่วมเข้าเมือง น่าเป็นห่วงจริงๆ

โชคดีที่ขณะนี้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก ไม่ว่าประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศกำลังพัฒนา ต่างกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกที่สอดคล้องกับสภาพการพัฒนาเศรษฐกิจของตนเอง อันที่จริง การลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกนั้น ไม่ใช่เพียงเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลเท่านั้น หากยังสัมพันธ์กับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านทุกคนอย่างใกล้ชิด

การดำรงชีวิตของคนเรา ย่อมปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาตลอดเวลา เพราะการดำรงชีวิตของมนุษย์ ต้องบริโภคทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานโดยตลอด อย่าคิดว่า ปริมาณแก๊สเรือนกระจกที่เกิดจากคนเพียงคนเดียวจะไม่มากนะครับ ยิ่งถ้ารวมปริมาณแก๊สเรือนกระจกที่เกิดจากคนทั่วโลกแล้วด้วย ยิ่งเป็นตัวเลขที่ใหญ่มาก ดังนั้น เราทุกคนควรพยายามลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกจากการดำเนินชีวิตของตนเอง เพื่อช่วยกันยับยั้งภาวะโลกร้อน

สำหรับการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในชีวิตประจำวัน ทำได้ไม่ยากและมีมากมายหลายวิธี พยายามลดการบริโภคทรัพยากรและพลังงานในทุกด้าน พร้อมเลิกความเคยชินที่สิ้นเปลือง สำหรับบุคคลทั่วไป แนะนำให้เริ่มต้นจากการประหยัดพลังงานไฟฟ้า เชื้อเพลิงและน้ำมันก่อน

ต่อไป ขอเสนอข้อปฏิบัติในบ้านเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากชีวิตแบบคาร์บอนต่ำที่ทุกคนทำได้ เริ่มต้นจากการใช้เครื่องปรับอากาศก่อนนะครับ เลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่ประหยัดไฟฟ้า และไม่ตั้งอุณหภูมิให้ต่ำเกินไป การตั้งอุณหภูมิให้ต่ำมาก ไม่เพียงแต่สิ้นเปลืองไฟฟ้า หากจะกระทบถึงความสามารถการปรับอุณหภูมิของร่างกาย และทำให้เป็นหวัดได้ง่าย

หลอดไฟฟ้าประหยัดพลังงานขนาด 11 วัตต์ ให้แสงสว่างเท่ากับหลอดไฟฟ้าธรรมดาขนาด 60 วัตต์ เมื่อเทียบกันแล้วสามารถประหยัดไฟฟ้าได้ 80% นอกจากนี้ การปรับหน้าจอโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์ให้มืดลงนิดหนึ่ง หมายถึงไม่ให้สว่างจ้า ไม่เพียงแต่ประหยัดไฟฟ้าได้ หากยังดีต่อสายตาด้วย

ถอดปลั๊กลงหลังใช้เครื่องไฟฟ้าเสร็จแล้ว เช่นโทรทัศน์ เมื่อกดปุ่มปิดบนรีโมทแล้ว ถ้าปลั๊กยังเสียบคาอยู่ ตัวเครื่องก็จะกินไฟต่อไป ใช้โถชักโครกแบบมีปุ่มกดสองปุ่ม เมื่อเทียบกับโถชักโครกที่มีปุ่มเดียว สามารถประหยัดน้ำได้ 50% และยังลดการปล่อยน้ำเสียได้ 50% ด้วย การผลิตน้ำประปาและการบำบัดน้ำเสียต้องใช้พลังงานมากเช่นกัน ดังนั้นการประหยัดน้ำก็มีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงานได้พยายามประหยัดน้ำประปาในบ้าน น้ำที่ใช้ล้างหน้าเสร็จแล้วให้เก็บไว้ล้างเท้าต่อ น้ำที่ใช้ล้างผักหรือซักเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เก็บไว้ล้างโถชักโครก ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการใช้น้ำร้อนมากกว่า 50% ของครอบครัวได้

ซื้อรถขนาดเครื่องยนต์เล็ก นอกจากราคาถูกแล้ว ยังประหยัดน้ำมันและปล่อยมลพิษน้อย และนับวันเป็นที่นิยมของชาวเมืองมากขึ้น ในกรณีเดินทางในเมืองแนะนำให้ใช้บริการระบบขนส่งมวลชนหรือปั่นจักรยานให้มากขึ้น การนั่งรถเมล์นั้นมีส่วนช่วยในการลดการใช้น้ำมันและลดการปล่อยมลพิษด้วย ส่วนการปั่นจักรยานนั้น นอกจากไม่ต้องทนกับรถติด ยังเป็นการออกกำลังกายด้วย

ซื้อแต่เสื้อผ้าที่จำเป็น กระบวนการผลิตและขนส่งเสื้อผ้า ต้องการบริโภคพลังงานมากมาย ขณะเดียวกันก็มีการปล่อยมลพิษด้วย ถ้าเสื้อผ้าในตู้พอใส่ ก็พยายามอย่าซื้อเสื้อที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะการผลิตเสื้อตัวหนึ่งจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 6.4 กิโลกรัม ถ้าต้องซักเสื้อผ้า แนะนำให้ซักด้วยมือแทนใช้เครื่องซักผ้าเพราะประหยัดไฟฟ้าได้ ส่วนในกรณีที่ไปนอนโรงแรม พยายามลดจำนวนครั้งที่เปลี่ยนผ้าปูเตียงและปลอกผ้าห่ม การซักผ้าปูเตียงและปลอกผ้าห่มชุดหนึ่ง ต้องการใช้ไฟฟ้า 0.03 กิโลวัตต์-ชั่วโมงและน้ำประปา 13 ลิตร ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 50 กรัม

ลดการสิ้นเปลืองอาหาร ตรงนี้หมายถึงอาหารหลักที่ทำจากธัญญาพืช จีนมีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน ถ้าชาวจีนทั่วประเทศลดการสิ้นเปลืองอาหารได้คนละ 0.5 กิโลกรัมต่อปี ก็สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ได้ 615,000 ตัน และ ถ้าทั่วประเทศจีนลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกได้ 10% ก็สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ได้ 31,000 ตัน สิ่งของอีกอย่างหนึ่งที่ยิ่งไม่ควรใช้สำหรับคนที่นิยมชีวิตแบบคาร์บอนต่ำ นั่นก็คือตะเกียบใช้แล้วทิ้ง เพราะตะเกียบใช้แล้วทิ้งส่วนใหญ่ทำด้วยไม้ ในช่วงกลางวันที่มีแสงอาทิตย์ ต้นไม้จะทำหน้าที่ดูดซึมคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการลดคาร์บอนไดออกไซด์ในธรรมชาติ

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040