คณะผู้แทนจีนที่ร่วมการประชุมตรวจสอบสิทธิมนุษยชนครั้งนี้ มาจากหน่วยงานรัฐบาลกลาง 17 หน่วยงาน ตลอดจนผู้แทนรัฐบาลฮ่องกงและมาเก๊า นายอู๋ ไห่หรง หัวหน้าคณะผู้แทน ทูตพิเศษกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวต่อที่ประชุมตรวจสอบว่า เมื่อ 4 ปีก่อน จีนถูกตรวสอบเป็นครั้งแรก รัฐบาลได้รับข้อเสนอ 42 ข้อจากประเทศต่างๆ และให้คำมั่นสัญญาว่า เมื่อถึงเวลาที่จะต้องถูกตรวจสอบครั้งต่อไป ชาวโลกจะได้เห็นประเทศจีนที่เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น ระบอบประชาธิปไตยและระบบกฎหมายสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น สังคมมีความสมานฉันท์มากยิ่งขึ้น และประชาชนมีความสุขมากยิ่งขึ้น เวลาผ่านไป 4 ปี จีนได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้แล้ว
เขากล่าวว่า ปัจจุบันกล่าวได้ว่า จีนยังคงปฏิบัติตามข้อเสนอดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐธรรมนูญและกฎบัตรพรรคคอมมิวนิสต์จีนล้วนมีมาตราและข้อกำหนดเกี่ยวกับการส่งเสริมและให้หลักประกันด้านสิทธิมนุษยชน
นายอู๋ ไห่หรงกล่าวว่า ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทางการจีนพยายามปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น เพิ่มโอกาสการมีงานทำ กำหนดเป็นภารกิจสำคัญอันดับหนึ่งคือ ให้หลักประกันสิทธิในการดำรงชีวิตและสิทธิในการพัฒนาของประชาชน นอกจากนั้น ยังให้ความสำคัญในการส่งเสริมสิทธิทางการเมืองของประชาชน และผลักดันกระบวนการยุติธรรมให้มีความคืบหน้า
นายอู๋ ไห่หรงกล่าวว่า การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จำเป็นต้องมีหลักประกันด้านกฎหมายที่เข้มแข็ง จีนส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมกับกระบวนการนิติบัญญัติด้วยรูปแบต่างๆ อาทิ การประกาศร่างกฎหมาย การจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน การเปิดอภิปราย เป็นต้น นอกจากนั้น รัฐบาลจีนยังได้ผลักดันกระบวนการยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง และหลักประกันด้านสิทธิมนุษยชนก็เป็นเป้าหมายสำคัญ
ผู้แทนจาก 137 ประเทศได้อภิปรายและให้ข้อเสนอต่อสภาพสิทธิมนุษยชนของจีน คณะผู้แทนจีนได้ตอบปัญหาต่างๆ ในที่ประชุม ผู้แทนประเทศตา่งๆ ที่เข้าร่วมการประชุมพากันชื่นชมจีนว่ามีผลคืบหน้าอย่างเห็นได้ชัดในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม การสร้างระบบกฎหมายแบบประชาธิปไำตย การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของกลุ่มคนพิการหรือผู้ยากจน ตลอดจนความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เป็นต้น
(In/Lin)