หลังจากเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายวันที่ 22 พฤษภาคมที่เมืองอุรุมชีของจีนเป็นต้นมา ท้องที่ต่างๆของจีนเริ่มยกระดับการรักษาความสงบให้สูงขึ้น และเสริมกำลังในการต่อต้านลัทธิก่อการร้ายด้วย ขณะเดียวกันยังวางแผนปฏิบัติการเฉพาะกิจ 1 ปีเพื่อปราบปรามการก่อการร้าย
เมื่อเร็วๆนี้ สถานีรถไฟใต้ตินบางแห่งในกรุงปักกิ่งเริ่มใช้มาตรการตรวจทั้งของและคนพร้อมกัน จนทำให้สถานีรถไฟใต้ดินบางแห่งมีคนเข้าคิวยาว โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้า ต่อกรณีความไม่สะดวกอันเกิดจากมาตรการต่อต้านการก่อการร้ายนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ในกรุงปักกิ่งล้วนเข้าใจ
อันที่จริง การใช้มาตรการตรวจทั้งของและคนพร้อมกันเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ก่อการร้ายวันที่ 22 พฤษภาคม กรุงปักกิ่งได้ใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อรักษาความสงบ ซึ่งรวมทั้งเริ่มตรวจทั้งของและคนพร้อมกันในสถานีรถไฟใต้ดิน 14 แห่ง รวมทั้งหวังฝู่จิ่ง ซีตันและสถานีรถไฟปักกิ่งเป็นต้น นอกจากนั้นยังจัดวางกองกำลังตำรวจพิเศษประจำเขตสำคัญๆ และตั้งมาตรฐานจัดการกับเหตุฉุกเฉินภายใน 1 นาที เป็นต้น ขณะเดียวกัน นายทหาร 300 นายยังถืออุปกรณ์ถ่ายภาพไปประจำที่ชุมชุนต่างๆ เพื่อขจัดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์
นายหลี่ เห่วย ผู้อำนวยการสถาบันความปลอดภัยและการควบคุมอาวุธสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยใหม่ของจีนกล่าวว่า การที่รัฐบาลจีนเสริมระดับต่อต้านการก่อการร้ายและเสริมกำลังต่อต้านการก่อการร้ายก็เพื่อรักษาความสงบของสังคมความปลอดภัยของประชาชน และยังสามารถลดความตื่นตระหนกให้น้อยลงหลังเกิดเหตุก่อการร้าย
ชาวบ้านบางคนเห็นว่า แม้ว่า การต่อต้านการก่อการร้ายฟังแล้วรู้สึกว่าค่อนข้างห่างไกลก็ตาม แต่พวกเขายังเข้าใจรัฐบาลและจะให้การสนับสนุนด้วย
นายหลี่ เห่วย ผู้อำนวยการสถาบันความปลอดภัยและการควบคุมอาวุธสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยใหม่ของจีนก็กล่าวว่า ไม่สนับสนุนให้ชาวบ้านธรรมดาที่ไม่ได้รับการฝึกอบรมเป็นพิเศษเข้าร่วมปฏิบัติการต่อต้านการก่อการ้าย เพราะอาจจะประสบเคราะห์ร้าย เขาเสนอว่า ชาวบ้านธรรมดาควรใช้ความระมัดระวัง ถ้าพบสถานการณ์หรือสิ่งที่น่าสงสัยควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที หลังเกิดเหตุก่อการร้ายแล้ว ควรช่วยเหลือกันและกัน เพื่อลดจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บล้มตายให้น้อยที่สุด ซึ่งเป็นวิธีที่ชาวบ้านธรรมดาจะทำได้
Yin/LJ