วันนี้เมื่อ 77 ปีที่แล้ว กลุ่มลัทธินิยมทหารของญี่ปุ่นระดมยิงเมืองหว่านผิงเฉิงของจีนด้วยปืนใหญ่อย่างโหดเหี้ยม ได้ก่อเหตุการณ์ 7 กรกฎาคมที่สะเทือนใจชาวจีนและชาวโลก อันเป็นการแสดงถึงการเริ่มรุกรานจีนอย่างทั่วถึง และก็เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามที่ประชาชาติจีนต่อต้านญี่ปุ่น จนถึงปัจจุบัน 70 กว่าปีได้ผ่านไปแล้ว แต่ยังไม่ได้เสร็จสิ้นการต่อสู้ระหว่างความชอบธรรมกับชั่วร้าย นับแต่เรื่องปฏิเสธโทษกรรมแห่งการรุกราน สักการะดวงวิญญาณอาชญากรสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่อนคลายสิทธิป้องกันตนเองร่วมกับประเทศพันธมิตรจนที่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ สภาพความจริงเตือนเราว่า กลุ่มการเมืองปีกขวาของญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะลุกลามและขยายอิทธิพล ลัทธินิยมทหารมีความเสี่ยงที่จะฟื้นคืน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ หอจดหมายเหตุมณฑลจี๋หลินได้ประกาศผลการวิจัยใหม่หลังจากการทำสำรวจวิจัยเอกสารทหารญี่ปุ่นที่รุกรานจีน โดยเอกสารเหล่านี้เก็บไว้ที่หอฯ เป็นข้อมูลจากผู้อยู่ในเหตุการณ์และสักขีพยานประวัติศาสตร์รุกรานจีนของญี่ปุ่น เป็นเครื่องพิสูจน์โทษกรรมต่างๆ ของทหารญี่ปุ่น อาทิ เผาบ้าน ฆ่าประชาชน กระทำลามกอนาจาร ยึดสิ่งของ ทำสงครามเคมีและสงครามเชื้อโรค เป็นต้น
นายมู่ จ้านอี รองผู้อำนวยการหอจดหมายเหตุมณฑลจี๋หลินแนะนำว่า เอกสารที่ประกาศมาในครั้งนี้มีทั้งหมด 450 ชิ้น ในช่วงระหว่างค.ศ.ปี 1937 ถึงปี 1945 เขียนด้วยภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด เป็นจดหมายประมาณ 45,000 ฉบับ โดยจดหมายระหว่างชาวญี่ปุนกับชาวญี่ปุนคิดเป็นมากกว่าร้อยละ 50 ได้เปิดเผยให้เห็นพฤติกรรมป่าเถื่อนของทหารญี่ปุ่นที่รุกรานจีน
เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ได้รับการตรวจสอบ เกิดขึ้นในช่วงญี่ปุ่นรุกรานจีน โดยรัฐบาลญี่ปุ่นได้กำหนดระบบตรวจสอบไปรษณียภัณฑ์ของทหาร ประชาชนท้องถิ่นและชาวต่างชาติโดยทำการตัดต่อ ส่งคืน ตบแต่งข้อมูลที่บันทึกพฤติกรรมป่าเถื่อน สภาพสงคราม การปกครองของญี่ปุ่นแล้วคัดเอาเขียนเป็นหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์หรือรายเดือนและรายงานให้ผู้นำชั้นสูงของทหาร เมื่อญี่ปุ่นพ่ายแพ้ ไม่ทันที่จะเผาทำลายเอกสารเหล่านี้ ก็เลยฝังไว้ใต้ดิน เมื่อพฤศจิกายน ค.ศ. 1953 กองกำลังทหารประจำเมืองฉางชุนของทหารปลดแอกประชาชนจีนได้ค้นพบเอกสารพวกนี้โดยบังเอิญขณะซ่อมแซมสายไฟใต้ดิน ในสายตาของนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ลัทธินิยมทหารของญี่ปุ่น ข้อมูลประวัติศาสตร์เหล่านี้มีคุณค่าพิเศษอย่างยิ่ง
(Yim/Cui)