ระหว่างวันที่ 8-9 มกราคมนี้ การประชุมอภิปรายระดับรัฐมนตรีระหว่างจีนกับประชาคมลาตินอเมริกาและแคริบเบียน (CELAC) จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งอย่างราบรื่น สะท้อนให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ีระหว่างสองฝ่ายมีความก้าวหน้าเชิงประวัติศาสตร์ และเข้าสู่ช่วงการพัฒนาใหม่
แต่ก่อน จีนกับลาตินอเมริกาขาดเวทีเชิงกลไกด้านการพูดคุยเจรจามาโดยตลอด ลาตินอเมริกากลายเป็นทวีปประเทศกำลังพัฒนาแห่งสุึดท้ายที่ไม่มีกลไกความร่วมมือกับจีน โดยมีสาเหตุหลัก 3 ประการ ได้แก่ หนึ่ง ห่างกันค่อนข้างไกลทางภูมิประเทศ และมีความสัมพันธ์ค่อนข้างน้อยทางประวัติศาสตร์ จึงมีต้นทุนค่อนข้างสูงด้านการติดต่อ สอง ลาตินอเมริกายังมี 12 ประเทศที่ยังไม่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน จึงยากที่จะพูดคุยเจรจากับประเทศเหล่านี้ในระดับรัฐบาล สาม ลาตินอเมริกาไม่มีองค์การประสานงานระดับภูมิภาค จีนจึงไม่สามารถหาคู่การเจรจาได้
แต่ทว่า กระบวนการโลกาภิวัตน์และการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกันของภูมิภาคพัฒนาอย่างรวดเร็ว จึงได้ขจัดอุปสรรคดังกล่าว การที่เศรษฐกิจจีนพัฒนาอย่างรวดเร็ว และกระบวนการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกันของเศรษฐกิจโลกพัฒนาเร็วขึ้นนั้น ทำให้ยอดการค้าระหว่างจีนกับลาตินอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อปี 2014 ยอดการค้าระหว่างสองฝ่ายคาดว่าจะมีเกือบ 300,000 ล้านดอลลาร์ ปัญหาทางภูมิประเทศไม่ใช่อุปสรรคที่แก้ไขไม่ได้อีก เมื่อปี 2011 ประชาคมลาตินอเมริกาและแคริบเบียนจัดตั้งขึ้น กลายเป็นองค์การระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในโลกตะวันตก เป็นการปูพื้นฐานให้กับการทูตพหุภาคีกับรัฐบาลชุดใหม่ของจีน
Yim/Ldan