สำนักข่าวซินหวารายงานว่า วันที่ 28 กรกฎาคมนี้ นายอวี๋ เจิ้งเซิง ประธานสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีนเสร็จสิ้นการเยือนไทยและอินโดนีเซีย เมื่อเร็วๆนี้ ผู้นำจีนได้เยือนประเทศอาเซียนหลายประเทศ โดยได้เผยแพร่แนวคิดที่มีความจริงใจต่อประเทศรอบข้างและแผนการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"
จีนใช้นโยบายต่างประเทศที่มีความจริงใจและอำนวยประโยชน์ต่อประเทศรอบข้าง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาของจีนที่หวังจะสร้างสมาคมร่วมชะตาเดียวกันกับประเทศเพื่อนบ้านพร้อมกัน ไม่ว่า "จีน-ไทยใช่ใครอื่น" หรือ "จีน-เวียดนามเป็นเพื่อนบ้าน เป็นมิตร เป็นสหาย เป็นหุ้นส่วน" ต่างได้สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดที่มีความจริงใจและอำนวยประโยชน์แก่กัน
ส่วนแผนการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นรูปแบบเสมอภาคและอำนวยผลประโยชน์ร่วมแก่กันปรึกษาหารือ ร่วมกันสร้างสรรค์ และแบ่งปันผลงานกัน
สถิติจากกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า ในครึ่งแรกปีนี้ วิสาหกิจจีนได้ลงทุนโดยตรงต่อ 48 ประเทศตามแผนการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เป็นมูลค่าทั้งหมด 7,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 22.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว การลงทุนเหล่านี้ส่วนใหญ่เข้าสู่สิงคโปร์ ลาว รัสเซีย คาซัคสถาน เวียดนาม และไทย เป็นต้น
ปัจจุบัน จังหวัดสงขลาของไทย ซึ่งเป็นเขตสำคัญตามแนวเส้นทางสายไหมทางทะเลกำลังมีการสร้างสรรค์อย่างคึกคัก เนื่องจากเป็นเขตสำคัญตามแผนยุทธศาสตร์เขตเศรษฐกิจพิเศษพรมแดนของไทยและแผนการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ของจีน จังหวัดสงขลาจึงประสบกับโอกาสการพัฒนาที่ดีอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ไม่ว่าจะเป็นนโยบายที่มีความจริงใจและอำนวยประโยชน์แก่กันหรือข้อเสนอแผนการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ล้วนแสดงให้เห็นว่า จีนยินยอมแบ่งปันผลงานการพัฒนากับประเทศรอบข้างด้วยกัน