หนังสือพิมพ์กว่างโจวรึเป้ารายงานว่า สถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้นจากการเผาป่าในพื้นที่บางแห่งบนเกาะสุมาตราและคาลิมันตันของอินโดนีเซีย ยังคงลุกลามต่อไป โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เข้าปกคลุมกรุงจาการ์ตา ทั้งนี้ทำให้สิงคโปร์เรียกร้องให้สมาชิกอาเซียนใช้ปฏิบัติการร่วมกันรับมือกับมลภาวะ
โฆษกหน่วยงานรับมือกับภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซียเห็นว่า ปัญหาหมอกควันปกคลุมเมืองหลวงจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เนื่องจากหมอกควันจะเปลี่ยนไปตามทิศทางของกระแสลม คุณภาพอากาศของกรุงจาการ์ตายังคงอยู่ในระดับปกติ ส่วนปัญหาหมอกควันบริเวณเกาะสุมาตราและคาลิมันตันนั้น โฆษกผู้นี้กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง เมืองบางแห่งมีทัศนวิสัยมองได้ไกลไม่เกิน 1,000 เมตร และหมอกควันจะยังคงจะลุกลามต่อไป จากการตรวจวัดโดยดาวเทียมเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา พื้นที่ประมาณ 1 ใน 3 ของอินโดนีเซียมีหมอกควันปกคลุมอยู่
ขณะนี้ จังหวัดชะวากลาง จังหวัดยอกยาการ์ตา (Jogja) พื้นที่ส่วนหนึ่งบริเวณชะวาตะวันออก จังหวัดนูซา เตงการา(Nusa Tenggara) ตะวันออก จังหวัดสุลาเวสีเหนือและทางเหนือของเกาะปาปัวยังไม่ได้รับรายงานว่ามีปัญหาหมอกควัน
ช่วงปีก่อนๆ หมอกควันที่เกิดจากการเผาป่าของอินโดนีเซียจะส่งผลกระทบต่อสิงคโปร์และมาเลเซีย ทว่าปีนี้ ได้ลามไปถึงฟิลิปปินส์และไทย กระทั่งทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และเนื่องจากปัญหาหมกควันดังกล่าว ส่งผลให้เที่ยวบินที่มีกำหนดเดินทางไปยังภาคกลางและภาคใต้ 6 เที่ยวถูกยกเลิกหรือดีเลย์ ผู้โดยสารหลายพันคนได้รับผลกระทบในช่วง 10 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์กล่าวว่า ในเซบู เมืองทางภาคกลาง นักบินมีทัศนวิสัยในการมองเห็นอยู่ในระยะ 8 กิโลเมตรเท่านั้น
ทางการฟิลิปปินส์กำชับให้โรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลเขตภาคใต้เตรียมพร้อมรับมือกับการรักษาพยาบาลผู้ป่วย ด้านโฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์กล่าว่า หน่วยงานสาธารณสุขเสนอให้ผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจสวมใส่หน้ากากอนามัยในเขตที่มีหมอกควันปกคลุม
In/LR