หลังเกิดเหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีสเพียง 4 วันเท่านั้น วันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ สำนักงานรักษาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซียประกาศผลการตรวจสอบว่า มีระเบิดซุกไว้ในเครื่องบินโดยสาร A321 ที่ตกในอียิปต์และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 224 คนเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมนี้ โดยยืนยันว่า การระเบิดเป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้เครื่องบินตกครั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุก่อการร้าย

ผู้เชี่ยวชาญรัสเซียเห็นว่า เหตุก่อการร้ายต่างๆที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ทำให้รัสเซียมีความตั้งใจมากยิ่งขึ้นในการปราบปรามลัทธิก่อการร้าย โดยเฉพาะกลุ่มไอเอส ขณะเดียวกัน ก็สร้างโอกาสความร่วมมือแก่รัสเซียและประเทศต่างๆทั่วโลกในการต่อต้านการก่อการร้าย จึงมีอิทธิพลสำคัญต่อระบบต่อต้านลัทธิก่อการร้ายทั่วโลก

เนื่องจากเหตุปัจจัยต่างๆ รัสเซียกับประเทศตะวันตกไม่ได้มีความร่วมมือด้านการต่อต้านลัทธิก่อการร้ายอย่างราบรื่น ปัจจุบัน รัสเซียกับฝรั่งเศสซึ่งถูกกลุ่มก่อการร้ายโจมตีหลายครั้งเมื่อเร็วๆนี้ได้กลายเป็น "พี่น้อง" ผู้ประสบเคราะห์ร้าย วันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ นายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียสั่งให้กองทัพเรือรัสเซียประจำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดต่อประสานสัมพันธ์กับกองทัพเรือฝรั่งเศสโดยตรงเพื่อเสริมความร่วมมือแบบพันธมิตร วันเดียวกัน นายปูตินยังโทรศัพท์ติดต่อกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยตกลงจะจัดการพบปะที่กรุงมอสโกในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับร่วมกันปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย รวมถึงไอเอส และแสวงหาวิธีการแก้วิกฤตซีเรีย

ในระหว่างการประชุมสุดยอดกลุ่มจี 20 ที่ตุรกีที่เพิ่งสิ้นสุดลง นายปูตินได้เจรจากับผู้นำประเทศยุโรปและเอเชียหลายประเทศเกี่ยวกับการต่อต้านลัทธิก่อการร้าย นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า ความเศร้าโศกและความโกรธที่มีร่วมกันควรทำให้พวกเราวางข้อขัดแย้งไว้ก่อน และตั้งแนวร่วมต่อต้านลัทธิก่อการร้ายทั่วโลกที่แท้จริง เขากล่าวว่า รัสเซียได้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวแก่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแล้ว