วันที่ 28 มีนาคมนี้เป็นวันรำลึกครบ 57 ปีการปลดแอกทาสกสิกรล้านคนของทิเบต เมื่อ 57 ปีก่อน นายโจว เอินไหล นายกรัฐมนตรีจีนลงนามคำสั่ง ประกาศปลดรัฐบาลท้องถิ่นของทิเบต โดยให้คณะกรรมการเตรียมการก่อตั้งเขตปกครองตนเองทิเบตใช้อำนาจรัฐแทน ต่อจากนั้น ทาสกสิกรล้านคนของทิเบตได้รับการปลดแอกและเริ่มดำเนินการปฏิรูประบอบประชาธิปไตยทำลายระบบทาสกสิกรศักดินาโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่ในประวัติสิทธิมนุษยชนของจีนเท่านั้น หากยังเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์สิทธิมนุษยชนของโลกด้วย

เมื่อสิ้นปี 2016 ยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมของทิเบตทะลุ 1 แสนล้านหยวนเป็นครั้งแรก โดยมีอัตราเติบโตสูงถึงร้อยละ 11 ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติเขตปกครองตนเองทิเบตระบุว่า ตั้งแต่เมื่อปี 2009 จนถึงสิ้นปี 2014 ยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมของทิเบตได้เติบโตเป็นหมื่นล้านหยวนต่อเนื่องกัน 6 ปี ทำให้จาก 4 หมื่นล้านหยวนเขยิบถึง 9 หมื่นล้านหยวน

ปัจจุบัน ระบบคมนาคมขนส่งทางของทิเบตได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ความเชื่อมโยงของเครือข่ายโทรคมนาคมและโลจิสติกส์ก็มีความรวดเร็วมากขึ้น ตั้งแต่การสัมมนาว่าด้วยทิเบตครั้งที่ 3 เมื่อปี 1994 เป็นต้นมา หน่วยงาน มณฑลและนครที่ให้การช่วยเหลือทิเบตจากทั่วประเทศได้เร่งดำเนินโครงการกว่า 8,300 โครงการ เป็นมูลค่ากว่า 30,000 ล้านยวน ช่วงปีหลังๆ มานี้ ตามความต้องการให้โครงการและเงินทุนมุ่งเน้นในด้านชีวิตความเป็นอยู่ของกสิกรในเขตปศุสัตว์ หน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือทิเบตจึงใช้เงินทุนกว่าร้อยละ 80 ในการสร้างบ้าน การรักษาพยาบาล การเข้าเรียน ระบบขนส่งมวลชน น้ำดื่ม การสื่อสารโทรคมนาคม เป็นต้น ซึ่งได้เปิดช่องทางกว้างขึ้นเพิ่มรายได้ของผู้เลี้ยงสัตว์และกสิกร อีกทั้งยังได้ปรับปรุงปัจจัยการผลิตและชีวิตความเป็นอยู่ทั่วไปของชาวทิเบตด้วย

จากทาสกสิกรที่ไม่มีหลักประกันทั้งชีวิตและความเป็นอยู่กลายเป็นผู้เลี้ยงสัตว์และกสิกรทั่วไป จนถึงพลเมืองที่มีจิตสำนึกทางกฎหมาย พาณิชย์และความรู้ทางวิทยาศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของทิเบตอย่างใหญ่หลวง ขณะนี้ ในทิเบตไม่เพียงแต่มีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกและปริญญาโทเท่านั้น หากยังเป็นผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่มีชื่อเสียงอยู่ทั่วประเทศด้วย ตั้งแต่ก่อตั้งเขตปกครองตนเองทิเบตเป็นต้นมา ได้มีสถาบันวิจัยกว่า 30 แห่ง และเจ้าหน้าที่ทางเทคโนโลยีสาขาต่างๆ กว่า 52,000 คน โดยมีผลงานที่มีอิทธิพลในโลกส่วนหนึ่งแล้ว