รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า ปีนี้และปีหน้า แม้เศรษฐกิจจีนเผชิญกับแรงกดดันที่จะชะลอความเร็วลงมาก็ตาม แต่เมื่อภาวการณ์ล้นตลาดผ่อนคลายลง โครงสร้างอุตสาหกรรมปรับดีขึ้น อุตสาหกรรมที่ 3 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตในระดับหนึ่ง ศ.หลู เซิ่งหรง ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจมหภาค มหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน ระบุว่า
"จีดีพีจีนปี 2017 จะเติบโตในอัตราร้อยละ 6.64 และในปีหน้าอาจจะปรับลดลงมาที่ร้อยละ 6.59 ซึ่งแสดงว่าเศรษฐกิจในสองปีข้างหน้าจะยังคงเผชิญกับแรงกดดันที่จะปรับลดลง ด้านราคานั้น ซีพีไอในปี 2017 จะปรับสูงขึ้นร้อยละ 2.15 พีพีไอจะปรับสูงขึ้นร้อยละ 2.41 ซึ่งแสดงว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำอย่างมั่นคง มีความเป็นไปได้น้อยที่จะเกิดเงินเฟ้อในระดับสูง"
รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า ปี 2017 เศรษฐกิจภายนอกที่ขาดความมั่นคงและลัทธิกีดกันทางการค้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จะไม่เอื้อต่อการส่งออกของจีนต่อไป ขณะที่ความเสี่ยงจากการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เร็วเกินไปจะนับวันเพิ่มขึ้น มีความเป็นไปได้น้อยที่การลงทุนภาคเอกชนจะดีดตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หากต้องการให้เศรษฐกิจขยายตัวในอัตรากว่าร้อยละ 6.5 ยังต้องอาศัยการลงทุนจากภาครัฐ โดยต้องจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงสร้างพื้นฐานกว่าร้อยละ 20
(IN/LING)