ความยากจนเป็นปัญหาที่ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ต้องต่อสู้มาโดยตลอด สาเหตุก็มาจากทั้งพื้นที่เพาะปลูกน้อย พื้นที่ภูเขามาก ธรรมชาติไม่เอื้ออำนวย และที่สำคัญที่สุดก็คือ ขาดแคลนน้ำ
เนื่องจากแหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุดต้องผ่านภูเขาลูกใหญ่ 3 ลูก ผ่านหน้าผาสูงชัน 300 เมตรและยาว 400 เมตรถึง 3 แห่ง แม้จะมีความยากลำบากแค่ไหน แต่หวงต้าฟาในฐานะผู้ใหญ่บ้าน กลับไม่ย่อท้อ เขาได้นำพาชาวบ้านร่วมกันขุดคูน้ำอย่างจริงจัง เริ่มแรกใช้เวลานานสิบกว่าปีแต่ไม่สำเร็จ หวงต้าฟาก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ กลับไปศึกษาเทคโนโลยีการขุดคูน้ำเป็นเวลาอีก 3 ปี ก่อนจะเริ่มขุดต่อเป็นครั้งที่ 2 การขุดครั้งนี้นอกจากจะมีการระดมทุนจากทุกครัวเรือนแล้ว หวงต้าฟายังได้รับการสนับสนุนจากทางการท้องถิ่นทั้งเงินทุนและเทคโนโลยีด้วย
ด้วยศรัทธาอันแรงกล้าและความพยายามอย่างไม่ลดละของชาวบ้าน น้ำก็ถูกผันเข้าหมู่บ้านได้สำเร็จในเวลา 3 ปีต่อมา
เมื่อมีน้ำ หมู่บ้านถวนเจี๋ยก็เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง พื้นที่แห้งแล้งกลายเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ สามารถสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ หรือกิจการอื่นๆ เด็กๆ ในหมู่บ้านก็ต่างได้รับการศึกษามากขึ้น มีผู้สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษากว่า 30 คน
ชาวบ้านที่นับวันมีชีวิตที่ดีงามยิ่งขึ้น ต่างสำนึกในบุญคุณของคูน้ำที่เปลี่ยนชะตาของพวกเขา และตั้งชื่อคูน้ำสายนี้ว่า "คูน้ำต้าฟา" ตามชื่อของหวงต้าฟา
ปัจจุบัน หวงต้าฟามีอายุได้ 81 ปีแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีเวลาว่าง ก็มักจะเดินทางไปเยี่ยมชมคูน้ำ ท่ามกลางนาขั้นบันไดที่เต็มไปด้วยน้ำและเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต
(TOON/LING)