หวัง จี้ฉาย (王继才) ได้รับการชื่นชมจากประธานาธิบดีจีนว่า เป็นวีรชนผู้
รักชาติ เสียสละ และสร้างค่านิยมยุคใหม่
เมื่อเร็วๆ นี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้กล่าวถึงวีรกรรมของนายหวัง จี้ฉาย โดยย้ำว่า นายหวัง จี้ฉาย พิทักษ์และป้องกันประเทศเป็นเวลา 32 ปี แม้เขาจะมีตำแหน่งงานที่ธรรมดา แต่ชีวประวัติของเขานั้นไม่ธรรมดา ด้วยความยึดมั่นและทุ่มเทอย่างแท้จริง เขาจึงเป็นตัวอย่างของการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกความรักชาติและความเสียสละ เพื่อเป็นค่านิยมให้กับบรรดาคนรุ่นใหม่
นายหวัง จี้ฉาย (ค.ศ. 1960—27 กรกฎาคม ค.ศ. 2018)
เป็นชาวอำเภอก้วนหยุน มณฑลเจียงซู ก่อนเสียชีวิตเขาดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการป้อม
ยามทหารบ้านประจำเกาะไคซาน (开山岛) อำเภอก้วนหยุน มณฑลเจียงซู
เกาะไคซานตั้งอยู่ในจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์บริเวณทะเลเหลือง
(Yellow Sea) มีพื้นที่เท่ากับสนามฟุตบอล 2 สนามเท่านั้น แต่มีความสำคัญด้านความมั่นคง
ปี ค.ศ.1986 นายหวัง จี้ฉาย ในวัย 26 ปี เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่
ที่เกาะไคซาน จากนั้น เขาพร้อมกับภรรยาได้ถือเอาเกาะแห่งนี้เป็นบ้าน เป็นเพื่อน ดูแลรักษาเกาะนี้อย่างโดดเดี่ยว ตัดขาดจากระบบน้ำประปาและไฟฟ้า แม้พืชพันธุ์ก็ยากที่จะอยู่รอด เขามอบทั้งชีวิตให้กับภารกิจการป้องกันพื้นที่น่านน้ำของประเทศ
ปี ค.ศ. 2014 นายหวัง จี้ฉาย พร้อมกับภรรยาได้รับการยกย่องเป็น
"แบบอย่างแห่งยุคสมัย" ระดับชาติ
วันที่ 27 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 2018 นายหวัง จี้ฉายล้มป่วยกะทันหัน
ขณะปฏิบัติหน้าที่ และเสียชีวิตลงในวัย 58 ปี
วันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2018 ตาม "ข้อบังคับว่าด้วยการ
สรรเสริญวีรบุรุษที่สละชีพเพื่อชาติ" ของทางการมณฑลเจียงซูได้ยกย่องนายหวัง จี้ฉายเป็นวีรบุรุษที่สละชีพเพื่อชาติ
วีรกรรมของนายหวัง จี้ฉาย
1. การขึ้นเกาะ
นายหวัง จี้ฉายเป็นลูกชาวนา เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1986 ในวัย 26 ปี เขาได้รับการแต่งตั้งจากทางการท้องถิ่นให้เป็น "เจ้าของเกาะ" เกาะไคซานรุ่นที่ 5 โดย "เจ้าของเกาะ" 4 รุ่นก่อนล้วนปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่นาน กล่าวถือ นานที่สุด 13 วัน และสั้นที่สุด 3 วัน
นายหวัง จี้ฉายเล่าว่า ก่อนขึ้นเกาะ ทั้งครอบครัวและญาติมิตรของเขาแทบไม่มีใครสนับสนุนเขาเลย ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านบอกว่า เกาะไคซานไกลแสนไกล เป็นเกาะเล็กๆ โดดเดี่ยวกลางทะเล การเดินทางไปโดยเรือต้องใช้เวลานับชั่วโมง บนเกาะร้างแห่งนี้แทบไม่มีอะไร แถมยังมีไต้ฝุ่นพัดผ่านบ่อยครั้ง เรือทั่วๆ ไปแทบเข้าเทียบท่าไม่ได้ การไปเกาะแห่งนี้นั้นแทบไม่ต่างอะไรจากการติดคุกที่อยู่บนเกาะ
อย่างไรก็ตาม นายหวัง จี้ฉายก็รับหน้าที่เฝ้ายามที่เกาะแห่งนี้ด้วยความยินดี โดยเขาบอกว่า "เพราะควรมีคนรักษาเกาะ เมื่อผมให้คำมั่นกับทางการแล้ว ก็ควรปฏิบัติตามให้ได้" จากนั้น นายหวัง จี้ฉายจึงจัดเตรียมอาหาร เสื้อผ้า และสิ่งของจำเป็น แล้วเดินทางไปที่เกาะอย่างไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น
2. ประจำการบนเกาะ
ปี ค.ศ. 1986 ก่อนมาประจำบนเกาะ นายหวัง จี้ฉายเคยทำงานรับจ้างมา
หลายปี ใช้ชีวิตแบบออกรสออกชาติ ปัจจุบัน เพื่อนๆ ที่เคยทำงานรับจ้างด้วยกัน ต่างมั่งคั่งและมีหน้ามีตาทุกคน ส่วนนายหวัง จี้ฉายใช้ชีวิตแบบประหยัดมัธยัสถ์ เพื่อนคนอื่นมีเงินฝากธนาคาร ส่วนนายหวัง จี้ฉายมีแต่หนี้สิน ตอนลูกสาวคนโตของเขาแต่งงานก็ไม่ได้ให้เงินก้นถุงแบบดูดีนัก ตอนลูกชายของเขาเรียนมหาวิทยาลัยเขาต้องกู้เงินมา 30,000 หยวน ซึ่งตอนนี้ก็ยังใช้หนี้ไม่หมด แม้แต่ตอนสร้างบ้านก็ยังยืมเงินจากพี่สาวมา 60,000 หยวน
"ไปประจำการบนเกาะ 1 ปี ได้เงินนิดเดียว ยังสู้เงินเดือน 1 เดือน
ของคนอื่นที่ไปทำงานรับจ้างไม่ได้เลย" พี่สาวที่ทำงานด้านการขนส่งที่นครเซี่ยงไฮ้เคยมาโน้มน้าวใจเขา และช่วยหางานในเซี่ยงไฮ้ให้เขาด้วย ปีหนึ่งรายได้หลายหมื่นหยวน แต่นายหวัง จี้ฉายก็ปฏิเสธ และยังคงยึดมั่นปฏิบัติหน้าที่ประจำการบนเกาะไคซานต่อไป
เพื่อยังชีพบนเกาะแห่งนี้ นายหวัง จี้ฉายและภรรยาของเขาหารายได้เสริมจากการ
จับสัตว์ทะเล ทั้งปลา กุ้ง หอย และปู ตัวเล็กๆ ก็ทำเป็นอาหาร ตัวใหญ่ๆก็ฝากเรือประมงนำกลับไปขายต่อที่ท่าเรือ ทำเช่นนี้แล้วปีหนึ่งๆ จะได้ "ลำไพ่พิเศษ" (รายได้เสริม) สามพันห้าพันหยวน เพื่อจุนเจือครอบครัว
เท่าที่ทราบ นายหวัง จี้ฉายและภรรยาของเขามีเงินเดือนค่าดูแลรักษาเกาะปีละ
3,700 หยวน ต่อมาปี ค.ศ.1995 มีการสร้างประภาคาร จึงมีเงินค่าดูแลรักษาเพิ่มอีก 2,000 หยวน อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของเขามีคุณแม่ซึ่งอยู่ในวัยชรา และมีบุตรอีก 3 คน เงินเล็กน้อยยากที่จะเลี้ยงดูคนทั้งครอบครัวได้ ด้วยเหตุนี้ สามีภรรยาคู่นี้จึงประหยัดอดออมมาก เสื้อผ้าแต่ละตัวล้วนใส่มา 8 ปี 10 ปี เพื่อประหยัด ในฤดูร้อน นายหวัง จี้ฉายไม่ค่อยใส่รองเท้า ส่วนใหญ่จะเดินเท้าเปล่า เปลือยกายท่อนบน ใส่แต่กางเกงหลวมๆ ตัวใหญ่เท่านั้น เวลาดื่มสุรา ก็ไม่ค่อยมีกับแกล้มอะไร แค่ภรรยาคั่วถั่วเหลืองให้จานหนึ่ง ก็ทำให้เขารู้สึก "ฟุ่มเฟือย" แล้ว
หวัง ซื่อฮวา (王仕花) ภรรยาของนายหวัง จี้ฉาย เธอมาจากครอบครัวที่มั่งคั่ง
เดิมเป็นครูสอนหนังสือในโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง เพื่อสนับสนุนงานของสามี เธอจึงลาออกจากงาน และหันมาดูแลเกาะไคซานพร้อมกับสามี โดยตำแหน่งของสามีเป็นผู้บัญชาการป้อมยามทหารบ้านประจำเกาะไคซาน และเธอเป็นสมาชิกหน่วย ทั้งคู่เป็นหน่วยปฏิบัติงานด้วยกัน ลาดตระเวนด้วยกัน สังเกตสถานการณ์ในทะเล แยกแยะเรือ และลงบันทึกประจำวัน
3. เกาะไคซาน
เกาะไคซานเป็นเกาะเล็กๆ ในทะเลเหลือง ห่างจาก
ท่าเรือเยี่ยนเหว่ยของเมืองเหลียนหยุนก่าง มณฑลเจียงซู 12 ไมล์ มีพื้นที่เพียง 13,000 ตารางเมตร หรือเท่ากับสนามฟุตบอล 2 สนามเท่านั้น ปี ค.ศ. 1939 ทหารญี่ปุ่นผู้รุกรานจีนเคยยึดเกาะไคซานก่อนจะขึ้นบก เกาะนี้แม้จะเล็กเท่าไข่นกกระทา แต่เป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ และเป็นจุดรักษาการณ์แนวหน้าของทะเลเหลือง
ช่วงทศวรรษปี 1990 เคยเกิดเหตุการณ์ลักลอบค้าขาย และการลักลอบ
เข้าเมือง พวกมิจฉาชีพยื่นเงินเป็นปึกๆ ให้นายหวัง จี้ฉาย แต่เขาก็ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
ช่วง 32 ปีมานี้ นายหวัง จี้ฉายและภรรยาแต่ละวันจะเชิญธงชาติขึ้น
สู่ยอดเสา เพื่อแสดงว่าเกาะแห่งนี้เป็นดินแดนของมาตุภูมิ แต่ละวันจะลงบันทึกการดูแลชายแดนทางทะเลตามข้อกำหนด หากเกิดกรณีฉุกเฉินก็จะแจ้งให้ข้างบนทราบอย่างทันกาล ธงชาติที่ถูกลมทะเลพัดจนเสียหายมีกว่า 190 ผืน บันทึกการดูแลพื้นที่ชายแดนทางทะเลมีกว่า 40 เล่ม วิทยุที่เคยใช้แต่ใช้การไม่ได้แล้วกว่า 20 เครื่อง และตะเกียงน้ำมันที่ชำรุดแล้วกว่า 10 อัน
สำหรับวีรกรรมของนายหวัง จี้ฉาย "แบบอย่างแห่งยุคสมัย"
ผู้ดูแลพิทักษ์ชาติมา 32 ปีนั้น นายสี จิ้นผิงประธานาธิบดีจีนชื่นชมว่า นายหวัง จี้ฉายเป็นวีรชนผู้รักชาติโดยการเสียสละ สร้างค่านิยมยุคใหม่ ประธานาธิบดีจีนยังออกคำแนะนำด้วยว่า สำหรับสมาชิกครอบครัวของนายหวัง จี้ฉาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเอาใจใส่และให้กำลังใจแก่บุคลากรที่มุ่งมั่นเสียสละในตำแหน่งงานที่ยากลำบากเป็นเวลานานอย่างนายหวัง จี้ฉาย หน่วยงานทุกระดับควรให้การสนับสนุนและบรรเทาความเดือดร้อนต่างๆ ของพวกเขา ให้การเอาใจใส่มากขึ้นกว่าเดิมทั้งด้านแนวคิด การงาน และการใช้ชีวิต เพื่อส่งเสริมความรักชาติความเสียสละ และสร้างค่านิยมยุคใหม่
(TIM/LING)