ประเทศไทยใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมเข้าร่วมงานเวลิด์เอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้ปี 2010 (1)
  2010-04-28 21:35:49  cri

งานเวลิด์เอ็กซ์โปปี2010ใกล้จะเปิดฉากที่นครเซี่ยงไฮ้ของจีนแล้วค่ะ เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอภาคภาษาไทยได้สัมภาษณ์นายพิรุณ ลายสมิต กงสุลใหญ่ประเทศไทยประจำนครเซี่ยงไฮ้เกี่ยวกับการเตรียมตัวของประเทศไทย ในการเข้าร่วมงานมหกรรมโลกที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ วันนี้ขอเชิญท่านฟังการสัมภาษณ์ตอนแรกค่ะ

* ประเทศไทยเตรียมตัวอย่างไรบ้างในการเข้าร่วมงานเวิลด์ เอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้คะ

* คนไทยก็มีความตื่นเต้นที่จะได้มาเยี่ยมชมงานมหกรรมของโลกที่นครเซี่ยงไฮ้

*อยากทราบว่าคนไทยตื่นเต้นยังไงกับงานมหกรรมครั้งนี้คะ

* เพราะว่างานเวลิด์เอ็กซ์โปว่าไปแล้วเป็นงานระดับโลก ทีผ่านมาก็มีการจัดขึ้นทุก 5 ปี โดยในช่วงที่ผ่านมา ทางรัฐบาลไทยและคนไทยก็ได้มีส่วนร่วมเข้ามาจัดแสดง เพราะฉะนั้นในแง่ของการเตรียมตัวของรัฐบาลไทยและคนไทยที่จะมาร่วม ผมอยากกราบเรียนในสองด้านก็คือ หนึ่ง ในแง่ของเอ็กซ์โป ซึ่งไทยเราก็เป็นสมาชิก และก็มีการเข้าร่วมอยู่ตลอดเวลา อันที่สองก็คือ เข้าร่วมในฐานะที่จีนเป็นมิตรของประเทศไทย เป็นญาติมิตรของไทย เพราะฉะนั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยและประชาชนไทยยินดีและก็พร้อมเต็มใจ พูดได้ว่า เต็มใจที่จะให้การสนับสนุน เท่าที่ทราบมาก็คือว่า งานเอ็กซ์โปที่เซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ เป็นงานเอ็กซ์โปที่ใช้เนื้อที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการจัดงาน คือ 5.28 ตารางกิโลเมตร และก็ทราบว่าทางรัฐบาลจีนก็ให้ความสำคัญ โดยในรัฐบาลของเซี่ยงไฮ้เอง ทางนายกเทศมนตรีก็ได้มีการแถลงว่า ในปีนี้ งานเอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้ก็จะเป็นวาระที่สำคัญที่สุดของนครเซี่ยงไฮ้ และก็เป็นเรื่องที่สำคัญของรัฐบาลจีน หลังจากประสบความสำเร็จในการจัดโอลิมปิกเมื่อปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง เพราะฉะนั้น ในเมื่อมันมีความยิ่งใหญ่และมีความสำคัญ คนไทยและรัฐบาลไทยก็ให้ความสำคัญอย่างมาก คนไทยเองก็ได้มีการติดตามพัฒนาการในการจัดงานเอ็กซ์โปครั้งนี้มาโดยตลอด นอกจากนั้น ผมอยากเรียนว่า ในแง่ของรัฐบาลไทยทั้งนี้ เราก็มีการเตรียมตัวพอสมควร นอกจากการมาสร้างศาลาไทยที่เห็นอยู่ในนี้แล้ว ก่อนที่จะมาแสดง เมื่อเดือนพฤศจิกายน ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลัก เพราะได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีไทยให้เป็นผู้แทนในการจัดงานเอ็กซ์โปครั้งนี้ ก็ได้จัดงานนิทรรศการงานเอ็กซ์โปศาลาไทยในประเทศไทยที่เมืองทองธานี ถ้าผมจำไม่ผิด เข้าใจว่าจะเป็นช่วงวันที่ 23 ถึง 26 พฤศจิกายน การจัดในครั้งนั้น สิ่งที่จะนำเสนอในศาลาไทยที่เซี่ยงไฮ้ ก็จัดแสดงอุปกรณ์ทุกอย่างเอาไปแสดงที่เมืองทองธานี เพื่อให้คนไทยได้รับทราบว่า เรากำลังจะนำเสนออะไรในเซี่ยงไฮ้ ให้คนเซี่ยงไฮ้ ให้คนจีน ให้คนต่างชาติได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น เพื่อที่ว่าอาจจะมีข้อคิดเห็นหรืออะไรจากประชาชน เราจะได้สามารถปรับแก้ก่อนที่จะนำมาติดตั้งในศาลาไทยที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งทราบมาว่าตอนนี้กำลังติดตั้งอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกาลเดือนนี้

* คือให้คนไทยมาดูก่อนว่าเราจะนำอะไรสิ่งดี ๆ มาแสดงในจีน และก็ปรับปรุงพัฒนา

* เผื่อจะมีความเห็นอะไรดี ๆ เราก็เอาความเห็นประชาชน ถือว่าประชาชนก็มีส่วนร่วมด้วย แล้วก็มาปรับปรุงเนื้อหาที่เรานำเสนอให้กับคนจีนและคนต่างชาติที่จะเข้าใจวิถีชีวิตของคนไทย

* ทราบมาว่า แนวคิดในการเข้าร่วมงานมหกรรมครั้งนี้ของไทยก็คือ ความเป็นไทย วิถีแห่งความยั่งยืนของชีวิต มีความหมายอย่างไรคะ

* สิ่งที่เราเน้นมากก็คือ thainess ก็คือความเป็นไทย เพราะว่าเราอยากให้คนเซี่ยงไฮ้ คนจีนและคนต่างชาติรู้จักว่า ในอดีตจนกระทั่งปัจจุบันนี้ คนไทยมีวิถีความเป็นอยู่เป็นอย่างไรบ้าง อันนี้เพื่อที่จะสอดคล้องกับหัวข้อเรื่องของงานเวิลด์เอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้ในปีนี้ ที่บอกว่า Better city Better life ทีนี้เราก็พยายามที่จะเสนอหัวข้อให้สอดคล้องกับหัวข้อของงานเอ็กซ์โป ในการจัดแสดง ความหมายก็คือว่า ความเป็นไทยก็เป็นวิถีแห่งความยั่งยืนของชีวิตของสังคมไทยตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน ซึ่งในศาลาไทยที่เห็น เขาก็จัดแสดงทั้งหมดเป็นสามห้อง คนที่เข้าไปใช้เวลาสัก 15 ไม่เกิน 20 นาทีในการชมทั้งหมดสามห้อง ห้องแรกก็จะเป็นห้องที่แสดงเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย ก็คือว่าชีวิตความเป็นไทยจะพึ่งอาศัยน้ำเป็นหลัก เมื่อก่อนเดินทางไปมาก็เดินทางด้วยเรือ เมืองไทยก็เป็นเมืองเกษตรกรรม เราต้องใช้น้ำ เพราะฉะนั้น น้ำกับคนไทยเป็นสิ่งที่ผูกพันกัน เพราะฉะนั้นก็เราจะนำเสนออันนี้ ซึ่งอันนี้ผมขออนุญาติเสริมนิดหนึ่งก็คือว่า โดยที่ว่าคนไทยผูกพันกับสายน้ำ ก่อนที่จะมีงานเอ็กซ์โปนี้ ทางสถานทูตกับทางสำนักงานพาณิชย์ก็ได้ร่วมจัดตลาดน้ำไทยในช่วงวันที่ 9 ถึงวันที่ 13 เมษายน จะจัดเป็นเวลา 5 วัน จริง ๆ แล้วก็เป็นงานเทศกาลไทย มีการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ขายสินค้าไทยซึ่งเป็นการเผยแพร่ความเป็นไทยให้คนเซี่ยงไฮ้และคนจีนได้รับทราบ และก็ในนั้นเราก็จะจัดแสดงศาลาไทยเพื่อที่ให้คนจีนได้มารับรู้เกี่ยวกับศาลาไทยก่อนที่จะไปถึงงานเอ็กซ์โป อันนี้ก็คือการโหมโรง เราก็จะมีสินค้าไทย มีนวดแผนโบราณ มีอาหาร ผลไม้ และก็มีการแสดงวัฒนธรรม ดนตรีไทยอะไรต่าง ๆ ก็คือเรายกตลาดน้ำและประเทศไทยเล็ก ๆ มาตั้งไว้ที่เซี่ยงไฮ้ เราก็เผยแพร่ความเป็นไทยที่ว่า คนไทยเราก็อยู่กับสายน้ำมาตั้งแต่เกิด อันนี้คือห้องแรกที่จัดแสดงที่ศาลาไทย จากนั้น ห้องที่สองที่เราจัดแสดง A Harmony of Different Tones เกิดร้อยพันหลายชีวิต คือหัวข้อนี้ก็คือว่าเป็นเรื่องราวของประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบัน ในเรื่องของประเทศไทยติดต่อกับต่างประเทศ เพื่อศึกษาความเจริญเข้ามาพัฒนาเศรษฐกิจให้ประเทศไทยทันกระแสโลกและก็มีความเจริญเติบโต สอดคล้องกับกระแสโลกที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจโตขึ้นมาเรื่อย ๆ หลักก็คือเป็นเรื่องของประเทศไทยกับต่างประเทศ ที่มีการติดต่อระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดต่อระหว่างไทยกับจีน ซึ่งจริง ๆ เราก็มีการติดต่อมาหลายพันปี แต่ว่าการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนก็เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเมื่อปี 1975 จน 1 กรกฎาคมปี 2010 ก็ครบ 35 ปีพอดี ซึ่งอันนั้นเราก็จะมีการจัดแสดง และก็ในช่วงวันที่ 1 กรกฎาคมที่ศาลาไทย เราอาจจะจัดกิจกรรมอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเป็นการให้คนที่มาชมได้รับทราบว่า วันนี้ก็เป็นวันที่ครบรอบ 35 ปี เราก็อาจจะมีการแจกของทีระลึกอะไรให้กับผู้เข้าชมในวันนั้น เพราะฉะนั้นห้องที่สองเป็นห้องที่นำเสนอให้คนจีนทราบว่า เรามีการติดต่อระหว่างประเทศอย่างไร มีความเจริญ มีความแลกเปลี่ยนกันราไม่ใช่ประเทศปิด เราเปิดและก็เป็นมิตรกับทุกประเทศ อันนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเน้นเรื่องติดต่อสัมพันธ์กับจีน ซึ่งเราถือว่าเป็นญาติพี่น้องที่ผู้นำไทยจีนพูดกันบ่อย ๆ ว่า "จงไท่อี้เจียชิน" "中泰一家亲" ก็คือว่า จีนไทยไม่ใช่อื่นไกล ก็คือพี่น้องกัน ส่วนสำหรับห้องที่สอง เราก็มาติดกับห้องที่สาม ห้องที่สามก็คือhappiness to harmony ล้อมรวมชีวิตสู่วิธีความเป็นไทย เป็นเรื่องของแนวคิดปราชญาพอเพียง ก็คือว่าเรานำพัฒนาการและก็ความเจริญมาพัฒนาบ้านเมืองเราให้มีความเจริญขึ้นมา เพื่อที่จะให้คนไทยในยุคปัจจุบันนี้ มีความอยู่ดีกินดีและก็มีสังคมที่มีความปรองดอง สามัคคี โดยทุกคนก็อยู่อย่างพอเพียง ซึ่งเข้ากับปราชญาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย

* และพอดีสอดคล้องกับคำขวัญงานเวิลด์เอ็กซ์โป ก็คือชีวิต low carbonใช่ไหม

* ใช่ ชีวิตอย่างพอเพียง พอเพียงในที่นี่หมายความว่าอยู่แบบมีความสุข และในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ เราก็พัฒนาอย่างเต็มที่ ก็คือทุกคนให้มีความสุข ความเจริญ ซึ่งทั้งหมดนี้ในสามห้องที่เข้าชมใน 15 นาทีนี้ ผู้เข้าชมก็จะได้เห็นภาพชีวิตของคนไทยตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบัน ว่ามีเรื่องราวเป็นยังไง เป็นการนำเสนอในช่วงสั้น ๆ

* และลักษณะเด่นในการดึงดูดของผู้ชมคือเน้นแสงสีหรือว่านวัตกรรมใหม่ ๆ หรือว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ มีอะไรบ้างคะ

* การแสดงทั้งสามห้องนี้จะใช้เทคโนโลยีหมด ห้องแรกก็คือใช้ม่านสายน้ำและก็มีการใช้เทคโนโลยี มีเรื่องราวเข้าไปในสายน้ำ ส่วนในห้องที่สอง เป็นห้องที่เกี่ยวกับต่างประเทศ ก็จะมีการสนทนากัน ระหว่างยักษ์ไทยในวัดพระแก้ว กับยักษ์ของจีน จะเป็นหุ่น สองคนก็มีการสนทนากันเกี่ยวกับการติดต่อ ก็จะสนทนากันเป็นเรื่องราวออกมาให้คนที่เข้าไปชม และก็อาจจะมีภาพอะไรอื่นประกอบด้วย ก็เป็นการใช้แสงสี เทคโนโลยีเช่นกัน ห้องที่สามก็เป็นการใช้เทคโนโลยีในการเสนอสิ่งที่มีความเจริญรุ่งเรืองว่าประเทศไทยเป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างไร กรุงเทพฯเป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างไร ก็มีเรื่องของวิวัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีมาทำให้คนไทยทุกวันนี้มีชีวิตที่อยู่สุขสบาย ที่มีความพอเพียงในตัว

* คงจะสวยงามมากและจะดึงดูดใจผู้ชม

* ใช่ครับ ผมขอให้ความมั่นใจว่าทุกคนที่เข้ามาชมที่ศาลาไทย จะไม่ผิดหวังแน่นอน และชมเสร็จแล้วท่านอาจจะมีความรู้สึกว่าอยากจะมาต่อแถวมาดูอีกรอบหนึ่ง

ท่านผู้ฟังคะ ที่ท่านได้ฟังคือ การสัมภาษณ์นายพิรุณ ลายสมิต กงสุลใหญ่ประเทศไทยประจำนครเซี่ยงไฮ้เกี่ยวกับการเตรียมตัวของประเทศไทยในการเข้าร่วมงานเวลิด์เอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้ปี2010 ในรายการของวันพรุ่งนี้ ขอเชิญฟังท่านกงสุลใหญ่พิรุณ ลายสมิตเล่าเรื่องการเตรียมเข้าร่วมงานเวลิด์เอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้ของไทยกันต่อค่ะ สวัสดีค่ะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040