ผมชาญวิทยา ชัยกูล (Mr.Chanwittaya Chaikul) บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์ ได้มีโอกาสเดินทางมากวางตุ้งและแวะที่กวางโจวตามคำเชิญของสถานีวิทยุซีอาร์ไอ ซึ่งทำให้ผมได้พบเห็นอะไรจากสิ่งที่เคยมองประเทศจีนในด้านที่ไม่แน่ใจว่า ความเจริญของจีนในวันนี้ ได้เจริญก้าวหน้าไปจุดไหน แต่ทันทีที่ได้มาถึงเมืองกวางโจว ผมได้เห็นถึงสภาพถนนหนทางที่สะอาดสะอ้าน บ้านเรือนเป็นระเบียบเรียบร้อย และเส้นทางหลายเส้นทางถูกเตรียมไว้สำหรับการจัดกีฬาเอเซี่ยนแกมส์ มีเลนไว้สำหรับเอเซี่ยนแกมส์เป็นเฉพาะ ซึ่งกำลังทดลองใช้อยู่ในเมืองกวางโจว ผมก็เห็นว่า ประเทศจีน โดยเฉพาะเมืองกวางโจวมีความตั้งใจอย่างยิ่ง ที่จะให้งานเอเซี่ยนเกมส์ที่จะออกมาเรียบร้อย และพอดีวันนี้ ผมเองก็ได้นั่งคุยกับท่าน พิษณุ สุวรรณะชฎ ซึ่งท่านเป็นกงสุลใหญ่ของประเทศไทยประจำเมืองกวางโจว ท่านก็บอกว่า ในช่วงของเทศกาลเอเซี่ยนแกมส์ครั้งนี้ ท่านได้พยายามนำเสนอ ผลไม้ไทยให้กับรัฐบาลจีน เพื่อต้อนรับผู้นำที่เดินทางมาเปิดพิธีเอเซี่ยนแกมส์ ท่านได้ถือโอกาสนี้นำทุเรียน ลำใย และผลไม้ไทยอื่น ข้าวสาร ข้าวหอมมะลิมาเผยแพร่ต่อผู้นำประเทศต่างๆ อีกด้วย สำหรับมาเมืองกวางโจว ที่ผมเห็นในวันนี้ เนื่องจากผมเคยเดินทางไปเซี่ยงไฮ้เมื่อหลายปีก่อน พอผมมองเห็นเมืองกวางโจว ผมก็รู้ว่า กวางโจวเองมีความเจริญ ถ้าดูด้วยสายตา ผมคิดว่า น่าจะพอๆ กับเมืองเซี่ยงไฮ้ แต่ว่า โดยข้อเท็จจริงแล้ว เมืองกวางโจวจะเจริญกว่าหรือไม่ ผมไม่แน่ใจ แต่ว่า เท่าที่ผมทราบ เซี่ยงไฮ้กับเมืองกวางโจว เป็นเมืองเศรษฐกิจที่อยู่จุดพอสมควร โดยทางกวางโจว และกวางตุ้น ทราบว่าเป็นเขตที่มีการลงทุนภาคอุตสาหกรรม และระบบการขนส่งโรจิสติก ซึ่งส่วนนี้ คิดว่า ประเทศไทยน่าจะได้โอกาสจัดการเข้ามา ร่วมลงทุนในเมืองกวางโจว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องกับอุตสาหกรรมรถยนตร์ ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างมากในเมืองนี้ และเรื่องสุดท้าย ผมได้มีโอกาศได้พยายามผลักดันกับท่านกงสลใหญ่ และทางเจ้าหน้าที่ซีอาร์ไอ ผมมีความรู้สึกว่า ถึงเวลาแล้วที่ท้องถิ่นของไทยควรจะทำสนธิสัญญาร่วมในลักษณะเมืองพี่เมืองน้อง หรือ sister city กับเมืองต่างๆ ในเมืองจีน โดยเฉพาะในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งท่านกงสุลใหญ่เองก็รู้สึก แสดงความยินดี สวัสดีครับ

(Jiang/Lj)