ปีหลังๆ นี้ วงการพุทธศาสนาของฮ่องกงกับแผ่นดินใหญ่จีนนับวันมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นยิ่งขึ้น ความร่วมมือก็มากขึ้น โดยวงการพุทธศาสนาฮ่องกงเคยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้วไปประดิษฐานที่ฮ่องกงเมื่อปี 1999 และเคยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุข้อนิ้วพระหัตถ์ไปประดิษฐานที่ฮ่องกงเมื่อปี 2004 ซึ่งล้วนประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2011 หลวงปู่จื้อฮุ่ย รองประธานสหพันธ์พุทธศาสนาฮ่องกงพร้อมคณะเดินทางไปยังสำนักงานศาสนาแห่งชาติจีนที่กรุงปักกิ่ง เพื่อส่งมอบสารของหลวงปู่เจวี๋ยกวาง ประธานสหพันธ์พุทธศาสนาฮ่องกงที่เขียนด้วยลายมือของท่านเอง แก่นายหวัง จั้วอัน ผู้อำนวยการสำนักงานศาสนาแห่งชาติ ซึ่งมีใจความสำคัญว่า มีความประสงค์จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระสิรัฐิ (กะโหลกศีรษะ) ไปประดิษฐานที่ฮ่องกงเป็นเวลา 5 วันระหว่างเทศกาลวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติของพระพุทธเจ้าประจำปี 2012 พร้อมจะเป็นเจ้าภาพจัดฟอรั่มพุทธศาสนาโลกครั้งที่ 3 ที่ฮ่องกง ทั้งนี้ หลวงปู่จื้อฮุ่ยกับคณะฯ ยังระบุว่า การพบพระบรมสารีริกธาตุพระสิรัฐิ (กะโหลกศีรษะ) ในยุคแห่งความเจริญรุ่งเรื่องที่เมืองหนานจิงเมื่อปี 2010 เป็นเรื่องที่น่าปีติยินดีและสรรเสริญยิ่งสำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ส่วนปี 2012 เป็นโอกาสครบรอบ 15 ปีที่ฮ่องกงกลับคืนสู่มาตุภูมิ ดังนั้น การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระสิรัฐิ (กะโหลกศีรษะ) ประดิษฐานที่ฮ่องกงในช่วงระหว่างเทศกาลวันวิสาขบูชาปี 2012 พร้อมกับการจัดฟอรั่มพุทธศาสนาโลกครั้งที่ 3 ที่ฮ่องกง จึงไม่เพียงแต่จะสามารถให้ชาวฮ่องกงมีโอกาสสักการะบูชาและร่วมสรงน้ำเท่านั้น หากยังจะสามารถปกปักรักษาฮ่องกงให้การเมืองราบรื่น ประชาชนปรองดอง สังคมสงบด้วย