2020-06-18 15:38CRI
สแตนลีย์ โฮ ชื่อจีนชื่อว่า เหอ หงเซิน เกิดวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1921 ที่เกาะฮ่องกงในครอบครัวที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพล ทศวรรษ 1930 เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ กิจการตระกูลโฮประสบภาวะขาดทุนล้มละลาย พ่อของเขาสูญเสียทรัพย์สินเกือบทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ จนต้องหนีไปประเทศเวียดนาม ทิ้งให้สแตนลีย์ โฮ อยู่กับแม่อย่างลำบากยากในฮ่องกง สแตนลีย์ โฮ ที่แรกไม่สนใจการเรียน แต่เมื่อได้เห็นความทุกข์ของคุณแม่ เริ่มทำงานหาเงินตั้งแต่อายุ 14 ปี พร้อมเปลี่ยนตัวเองให้เป็นเด็กตั้งใจเรียน จนได้ทุนการศึกษาไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฮ่องกง ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นบุกฮ่องกงในปี 1941 สแตนลีย์วัย 20 ปี ต้องเลิกเรียนและอพยพไปมาเก๊าเพื่อหนีภัยสงคราม โดยมีเงินติดตัวเพียง 10 ดอลลาร์ฮ่องกง
แต่เขาไม่เคยถอยหลัง มุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง ทำทำเป้าหมายให้กลายเป็นจริง มีความฝันในความสำเร็จ เมื่อเขาอพยพไปมาเก๊า ก็เริ่มสะสมเงินทุนไปเรื่อย ๆ เขาเป็นนักเจรจาต่อรองที่มีเหตุมีผลและมีความสามารถ ใช้เวลาแค่ 4 ปี ก็สะสมเงินล้านดอลลาร์ ต่อมา เขาไม่เคยหยุดนิ่ง คว้าทุก ๆ โอกาสที่ผ่านเข้ามา กิจการของเขาเกี่ยวข้องกับวงการหลายประเภท มีบริษัทค้าทอง ของเล่น เหล็ก เครื่องบิน เคมีภัณฑ์และธุรกิจเดินเรือ ฯลฯ จนสามารถสร้างฐานะร่ำรวยอยู่ในขั้นเศรษฐี
ในปี 1962 เขาได้เริ่มทำธุรกิจกาสิโน เพราะในสมัยนั้น เขารู้สึกว่าธุรกิจกาสิโนจะช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวของมาเก๊า ทำให้มาเก๊าเจริญขึ้น แต่เขาบอกผู้คนและครอบครัวเสมอให้หลีกเลี่ยงการเล่นพนัน เขาเองก็ไม่ชอบเล่นการพนัน ไม่เคยคิดร่ำรวยจากการเล่นพนัน ต่อมา ความฝันของเขากลายเป็นความจริง มาเก๊าเปลี่ยนจากหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ ที่ยากจนกลายเป็นนครแห่งความบันเทิงที่คึกคักที่ทุกคนรู้จักในทุกวันนี้
"สแตนลีย์ โฮ" มีบุคลิกที่แข็งแกร่ง และมีความสง่างาม มีเสน่ห์ เน้นความรักและการเอาใจใส่คนรอบข้าง ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยตำนาน ในเวลาเดียวกันเขาก็ยังมีบทบาทสำคัญมากในกระบวนการทางประวัติศาสตร์ของมาเก๊ากลับสู่จีนแผนดินใหญ่
สำนักงานประสานงานของรัฐบาลกลางประจำเขตบริหารพิเศษฮ่องกงประกาศว่า นายสแตนลีย์ โฮ เป็นคนที่รู้จักกันดีในวงการอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ รักบ้านเกิดของเขามาโดยตลอด ให้ความสนใจเกี่ยวกับฮ่องกงและมาเก๊า เน้นการพัฒนาตนเองและการทำงานอย่างหนัก มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการก่อสร้างทางเศรษฐกิจของมาตุภูมิ สนับสนุนการพัฒนากิจการทางวัฒนธรรม เทคโนโลยี กีฬา และการกุศล สร้างประโยชน์ในเชิงบวกต่อความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกงและมาเก๊า ระหว่างการเป็นสมาชิกคณะกรรมการประจำสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีนชุดที่ 9- ชุดที่ 12 เขามีส่วนร่วมและให้ข้อเสนอแนะในทางการเมือง เขายังเป็นสมาชิกคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายพื้นฐานของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เขาได้มีส่วนร่วมในการเป็นสักขีพยานในการเจรจาระหว่างจีน – อังกฤษ รวมทั้งการกลับสู่จีนของฮ่องกง เป็นสักขีพยานในการดำเนินนโยบาย "หนึ่งประเทศสองระบบ" "คนฮ่องกงปกครองฮ่องกง" มีอิสระในการบริหารตนเองในระดับสูง ที่ประสบความสำเร็จ ให้การสนับสนุนความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพในระยะยาวของฮ่องกงและมาเก๊า
นางแครี่ หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกงกล่าวว่า นายสแตนลีย์ โฮ มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการพัฒนาการบริการสังคมของฮ่องกง สนับสนุนกิจกรรมระดมทุนเพื่อการกุศลอย่างเต็มกำลัง บริจาคเงินให้กับการกุศลของฮ่องกง วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยฮ่องกง นอกจากนี้ เขายังบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกทางวัฒนธรรม และสันทนาการ และเผยแพร่ความรู้การต่อต้านยาเสพติด ซึ่งประสบผลสำเร็จมากมาย
นายเฮ่ออีเฉิง (Ho Iat Seng) ผู้บริหารสูงสุดของเขตบริหารพิเศษมาเก๊ากล่าวว่า สแตนลีย์ โฮเป็นคนใจดี ชอบทำความดีมาโดยตลอด เอาใจใส่กิจการการกุศลของสังคม มีบทบาทสำคัญต่อความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงของมาเก๊า
สำนักข่าวซินหัวประเมินว่า สแตนลีย์ โฮ มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการก่อสร้างทางเศรษฐกิจ รวมทั้งเข้าร่วมกิจการต่าง ๆ เช่นวัฒนธรรม การกุศล ของจีนแผ่นดินใหญ่ เข้าร่วมและเป็นสักขีพยานของกระบวนการการกลับสู่จีนของฮ่องกงและมาเก๊า นายสแตนลีย์ โฮ ยึดมั่นในความรักชาติ รักฮ่องกงและมาเก๊า สนับสนุนนโยบาย "หนึ่งประเทศสองระบบ" และกฎหมายพื้นฐานอย่างหนักแน่น สนับสนุนหัวหน้าผู้บริหารและรัฐบาลเขตบริหารพิเศษให้ดำเนินงานตามกฎหมาย ทำผลงานในเชิงบวกในการดำเนินนโยบาย หนึ่งประเทศสองระบบ" และการรักษาความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพในระยะยาวในฮ่องกงและมาเก๊า