บทวิเคราะห์ : การแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างจีน-สหรัฐฯ ส่งสัญญาณ 3 ประการ

2021-03-21 11:40CRI

บทวิเคราะห์:การแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างจีน-สหรัฐฯ ส่งสัญญาณ 3 ประการ_fororder_1

วันที่ 19 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่น   การแลกเปลี่ยนความเห็นเชิงยุทธศาสตร์ในระดับสูงระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่ดำเนินการมาเป็นเวลา 2 วัน ได้สิ้นสุดลงที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอะลาสกาของสหรัฐฯ  นับเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสองประเทศพูดคุยกันต่อหน้าหลังประธานาธิบดี โจ ไบเดน เข้ามาบริหารประเทศ   จากข้อมูลข่าวสารที่ฝ่ายจีนแถลงหลังเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยนระบุว่า   จีน-สหรัฐฯได้แลกเปลี่ยนความเห็นอย่างตรงไปตรงมา  ลงลึกในรายละเอียดและมีลักษณะสร้างสรรค์ในประเด็นต่างๆ เช่น นโยบายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศของแต่ละฝ่าย   ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ  ตลอดจนปัญหาระหว่างประเทศและภูมิภาคที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสนใจ    โดยต่างเห็นว่าการแลกเปลี่ยนความเห็นครั้งนี้จัดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม ทันต่อสถานการณ์  เป็นประโยชน์ และเพิ่มความเข้าใจระหว่างกัน อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นต่างในบางประเด็น 

เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดที่แล้วได้ใช้นโยบายต่อต้านจีนอย่างสุดโต่ง  ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ต้องเผชิญกับอุปสรรคมาก  หลังรัฐบาลของนายโจ ไบเดนเข้ามาบริหารประเทศ  ผู้นำจีน-สหรัฐฯได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา   และได้แสดงให้เห็นแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคตอย่างชัดเจน     การที่จีนเข้าร่วมการแลกเปลี่ยนความเห็นเชิงยุทธศาสตร์ในระดับสูงครั้งนี้เป็นไปตามคำเชิญของสหรัฐฯ เป็นไปตามการตัดสินนโยบายด้วยตนเองของผู้นำทั้งสองประเทศ 

จีนได้เดินทางเพื่อเข้าร่วมการแลกเปลี่ยนความเห็นในครั้งนี้ด้วยความจริงใจ โดยได้แสดงจุดยืน และสิ่งที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษอย่างจริงจังและตรงไปตรงมา  โดยได้ส่งสัญญาณ 3 ประการ ดังต่อไปนี้ 

ประการแรกการเดินทางไปสหรัฐฯครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะแก้ไขปัญหา  ไม่ใช่สร้างปัญหาหรือทะเลาะเบาะแว้งกับใคร  แต่เมื่อเผชิญกับการกล่าวหาอย่างไม่มีเหตุผล และประพฤติที่ไม่เหมาะสมของฝ่ายสหรัฐฯ ระหว่างการแลกเปลี่ยน  ฝ่ายจีนจึงได้ตอบโต้อย่างมีเหตุผล และได้ขีดเส้นแดง ชี้ชัดสิ่งที่จีนให้ความสำคัญเป็นพิเศษ  ทั้งนี้แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นตั้งใจที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของจีนในการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และประโยชน์แห่งการพัฒนาของประเทศชาติ 

ประชาคมโลกสังเกตเห็นว่า  ก่อนและหลังจัดการแลกเปลี่ยนฯ ในครั้งนี้   สหรัฐฯ มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เช่น  จัดการประชุมระหว่างสหรัฐฯ อินเดีย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น   จัดการแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น แบบ 2+2 และนำเสนอข่าวเกี่ยวกับภัยคุกคามจากจีนจำนวนมาก     อีกทั้งยังมีประพฤติที่ไม่มีมารยาททางการทูตในระหว่างแลกเปลี่ยนความเห็นกับจีน เช่นได้กล่าวสุนทรพจน์เปิดประชุมยาวกว่าที่กำหนดไว้อย่างมาก และกล่าวหานโยบายทั้งในประเทศและต่างประเทศของจีนอย่างไร้เหตุผล   การเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐฯมีวัตถุประสงค์ที่จะวางเดิมพันเพิ่มเพื่อต่อรองกับจีน  และสร้างความได้เปรียบในการแลกเปลี่ยนความเห็น  รวมทั้งตอบรับความต้องการทางการเมืองภายในประเทศ   

ซึ่งการกระทำดังกล่าวจีนมองว่าสหรัฐอยากแสดงให้เห็นว่าตนเองฉลาด  แต่สุดท้ายไม่แสดงออกว่าชาญฉลาด  กลอุบายทางการเมืองของนักการเมืองสหรัฐฯ บางคนทำให้ประชาคมโลกเห็นฉากหนึ่งที่ถืออำนาจบาตรใหญ่ของสหรัฐฯ ถูกตอบโต้ต่อหน้าอย่างหนัก 

ฝ่ายจีนชี้ชัดระหว่างการแลกเปลี่ยนว่าจีนไม่ยอมให้ใครทำลายฐานะของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการปกครองประเทศ   และความมั่นคงในระบบของจีน   ปัญหาไต้หวัน ฮ่องกง ซินเจียง และทิเบตเป็นกิจการภายในของจีน  คัดค้านการแทรกแซงจากภายนอกอย่างเด็ดขาด    สิ่งเหล่านี้เป็นเส้นแดงที่จีนขีดไว้  สหรัฐฯไม่ควรมีการตัดสินเชิงยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดอีกครั้งต่อการนี้

ประการที่ 2 แม้ทั้งสองฝ่ายจะมีความเห็นต่างในบางประเด็นสำคัญ  แต่จีนยังคงพยายามให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในประเด็นต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม และได้บรรลุความเห็นพ้องฯ กันในระดับหนึ่งในประเด็นเหล่านี้    ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าจีนมีความรับผิดชอบอย่างสูงต่อประโยชน์ของจีน-สหรัฐฯ และทั่วโลก 

ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์พิสูจน์ให้เห็นหลายครั้งว่า หากจีน-สหรัฐฯ ร่วมมือกัน  ทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์ หากปะทะกันต่างก็จะได้รับความเสียหาย   ด้วยเหตุนี้จีนและสหรัฐฯได้แลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นปัญหาต่างๆ เช่น  เศรษฐกิจ การค้า  การทหาร  การบังคับใช้กฎหมาย บุคลากร วัฒนธรรม  สาธารณสุข ความมั่นคงทางไซเบอร์  ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงว่าจะทุ่มเทกำลังในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ   และจะจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระหว่างจีน-สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นปัจจัยทางบวกในการแลกเปลี่ยนความเห็นเชิงยุทธศาสตร์ในระดับสูงระหว่างจีน-สหรัฐฯครั้งนี้  ซึ่งสอดคล้องกับประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย  ความร่วมมือในขั้นต่อไปต้องยึดหลักเคารพซึ่งกันและกัน และปฏิบัติต่อกันอย่างเสมอภาคเท่าเทียม  จีนปฏิเสธที่จะต้องทำตามสิ่งที่สหรัฐฯต้องการโดยลำพังฝ่ายเดียว  และไม่ยอมให้สหรัฐฯ มาแสดงอำนาจเหนือจีน

ประการที่ 3 จีนได้แสดงความเห็นอย่างชัดเจนถึงแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใหญ่   และจะรักษากลไกพหุภาคีที่แท้จริงอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่   ช่วงต้นที่รัฐบาลของนายโจ ไบเดนเข้ามาบริหารประเทศเคยแถลงว่า  “การทูตของสหรัฐฯ กลับมาแล้ว”  แต่สังเกตดูวิธีการบริหารประเทศในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดว่า   กลไก “พหุภาคี” ของสหรัฐฯ นั้นแท้จริงแล้วเป็นการเมืองของกลุ่มประเทศจำนวนน้อย  ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อสันติภาพและการพัฒนาของโลก 

ระหว่างการแลกเปลี่ยนความเห็นในครั้งนี้  จีนย้ำว่าต้องรักษาระบบสากลที่ถือสหประชาชาติเป็นแกนนำ  และระเบียบระหว่างประเทศบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแน่วแน่    ไม่ใช่ระเบียบบนพื้นฐานกฎข้อบังคับที่กำหนดขึ้นโดยไม่กี่ประเทศ  ในขณะเดียวกันจีนชี้ว่ากลไกพหุภาคีที่แท้จริงนั้นต้องเคารพอธิปไตยของทุกประเทศในโลก  เคารพความหลากหลายด้านอารยธรรม  และทุ่มเทกำลังในการพัฒนาความเป็นประชาธิปไตยที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ    ไม่ควรแบ่งฝักแบ่งฝ่ายไม่กี่ประเทศ ไม่ควรใช้วิธีเดิมๆ แบ่งพรรคแบ่งพวกตามภาวะจิตสำนึก  และไม่ควรทำให้เกิดการเป็นปฏิปักษ์ระหว่างกลุ่มประเทศ 

(bo/cai)

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)